กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--เดอะ ทัช
ปัจจุบันบุคลิกภาพและความสวยงามเป็นอีกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต หน้าที่การงานเดอะ ทัช (The Touch) สถาบันดูแลบุคลิกภาพ รูปร่าง และผิวพรรณ ก่อตั้งด้วยแนวคิดในการสร้างสรรค์ศิลปะการดูแลตัวเองโดยเน้นการปรับบุคลิกภาพ รูปร่าง และผิวพรรณให้โดดเด่น ผ่านเครื่องและนวัตกรรมที่ทันสมัยจากต่างประเทศ โดยใช้เทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของเดอะ ทัช ผสมผสานผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมนำทฤษฎีการ Make Up และเทคนิคการพัฒนาบุคลิกภาพ มาเป็นส่วนช่วยเพื่อปรับบุคลิกและเสริมสร้างความมั่นใจให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจน เดอะ ทัช จึงก่อกำเนิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาการพัฒนาบุคลิกภาพ รูปร่าง หน้าตา และผิวพรรณ
น.ส.พิชชานันท์ ณวัฒน์นิธิชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะทัช จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจความงามครบวงจร ภายใต้แบรนด์ เดอะ ทัช (The Touch) เปิดเผยว่า บริษัทได้ก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2557 โดยทุนจดทะเบียนแยกตามสาขาๆละ 5 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจความงามครบวงจรภายใต้แบรนด์ เดอะ ทัช (The Touch) ประกอบด้วยบริการดูแลรูปร่าง ผิวพรรณ ตลอดจนปรับบุคลิกภาพ และการแต่งหน้าให้เข้ากับบุคลิกภาพแต่ละบุคคล ซึ่งนับเป็นสถาบันดูแลความงามและบุคลิกภาพครบวงจรแห่งแรกในเมืองไทย แบ่งสัดส่วนการให้บริการออกเป็น การดูแลผิวพรรณและรูปร่าง 80%, การอบรมเรื่องแต่งหน้า 10% และ การอบรมเรื่องพัฒนาบุคลิกภาพ10%
“เดอะ ทัช มีแนวคิดมุ่งตอบโจทย์การดูแลบุคลิกภาพ รูปร่าง และผิวพรรณ แบบครบวงจร ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีธุรกิจความสวยความงามแบบเดอะ ทัช เกิดขึ้นในตลาด จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจในการเสนอตัวเป็นทางเลือกตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้อย่างลงตัว โดยมีคอนเซปต์ของสถาบันฯ คือ Smart Your Look, Smart Your Life นั่นคือ ผู้หญิงผู้ชายยุคใหม่ในปัจจุบันหากมีการดูแลรูปร่าง ผิวพรรณรวมทั้งบุคลิกภาพที่ดีแล้ว แน่นอนว่า ย่อมช่วยทำให้เกิดความมั่นใจในการจะทำอะไรก็ตาม และยังช่วยสร้างความน่าประทับใจเวลาที่เราต้องเข้าสังคม หรือช่วยสร้างความน่าเชื่อถือเมื่อต้องไปพบปะกับลูกค้า นับเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและน่าชื่นชมให้กับองค์กร”
เบื้องต้น บริษัทได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เปิดสาขาให้บริการ 4 แห่งพร้อมกันทันที ที่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เซ็นทรัล บางนา, เดอะมอลล์ บางแค และฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเร็วๆ นี้ เตรียมขยายสาขาเพิ่มที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเซ็นทรัล พระราม 2 ส่วนปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าจะเปิดสาขาที่เซ็นทรัล บางใหญ่ คาดว่ารวมทั้งสิ้นจะขยายสาขาได้ครบ 7 แห่งได้ภายในปี 2558
สำหรับสาขาเดอะมอลล์ บางแค เปิดบริการจำนวน 2 เฟส ชั้น 2 ขนาด 73 ตร.ม. และ ชั้น 7 โซนทาวเวอร์ ขนาด 160 ตร.ม., ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จำนวน 2 เฟส ชั้น 3 ขนาด 82 ตร.ม. ชั้น G ขนาด 188 ตร.ม., เซ็นทรัลบางนา จำนวน 2 เฟส ชั้น 26 ขนาด 369 ตร.ม. และชั้น 3 ขนาด80 ตร.ม.
เซ็นทรัลปิ่นเกล้า จำนวน 1 เฟส ชั้น 2 ขนาด 244 ตร.ม.
เดอะ ทัช มีความโดดเด่นทางด้านบุคลากรที่เชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านความงาม พร้อมจุดขายนวัตกรรม อุปกรณ์ความงามนำเข้าจากเบลเยี่ยม อิสราเอล และสเปน อัตราค่าบริการเริ่มต้นใน “หลักพันบาท” โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้หลากหลายแพ็กเกจ
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจความงามมีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการแข่งขันดุเดือดแต่เติบโตสูงตามกระแสดูแลความงามของสาวยุคใหม่ โดย เดอะ ทัช ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด 3% ของภาพรวมตลาดบิวตี้ในปี 2558
พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังได้จัดสรรงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เตรียมแผนการตลาดครบวงจร เน้นการทำตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ 70% โดยจะมีการออกบูธ โรดโชว์ กิจกรรมอีเวนท์ ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่จะมีการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบแบนเนอร์ โปสเตอร์ สื่อบันไดเลื่อน และลิฟท์ รวมถึงการจัดโปรโมชั่น เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์และเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายระดับบน ที่มีกำลังซื้อสูง อายุ 20-60 ปี ตั้งแต่นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย วัยทำงาน แม่บ้านที่ต้องออกงานสังคม
เดอะ ทัช ได้เลือก เอมมี่ มรกต กิตติสาระ เป็นพรีเซ็นเตอร์ สะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์ ซึ่ง “เอมมี่ มรกต” มีความโดดเด่น ทั้งเรื่องบุคลิกภาพและความงาม มีดีกรีระดับเจ้าของตำแหน่งมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2547 และดารานักแสดงที่ดูแลรูปร่างสุขภาพผิวพรรณ จึงได้รับเลือกเป็นตัวแทนของ เดอะ ทัช ในครั้งนี้
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ยอดขายไตรมาสแรกนี้ สามารถทำยอดขายได้ 30% ของการลงทุน โดยตั้งเป้ายอดขายภายใน 1 ปีจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท
โอกาสเปิดตัวสถาบันดูแลความงามและบุคลิกภาพ “เดอะ ทัช” ทั้ง 4 สาขาพร้อมกันนี้ ยังได้จัดทำโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 50 % เพื่อเป็นการแนะนำสถาบันฯให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจ