กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--คิธแอนด์คินฯ
สนพ. เผยความคืบหน้าแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี โดยระหว่างปี 2554-2556 เดินหน้างานด้านการอนุรักษ์พลังงานไปแล้ว 190 โครงการ ลดใช้พลังงานได้ 36,093 ล้านบาท
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินงานแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (พ.ศ.2554 – 2573) ว่า จากผลการดำเนินงาน ตั้งแต่ปี 2554 – 2556 รวมระยะเวลา 3 ปี สนพ. ได้ผลักดันโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน ที่สอดคล้องกับภารกิจแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี ไปแล้วรวม 190 โครงการ อาทิ โครงการส่งเสริมวัสดุและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงานในโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก โครงการส่งเสริมฉลากประสิทธิภาพสูงเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โครงการส่งเสริมการลงทุนด้านอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน (ESCO Revolving Fund) และโครงการส่งเสริมระบบบริหารจัดการขนส่งเพื่อการประหยัดพลังงาน (พ.ศ.2555) (Logistics and Transport Management : LTM) เป็นต้น จากการดำเนินงานทั้งหมด สามารถประหยัดพลังงานได้ประมาณ 1,443.74 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 36,093 ล้านบาท
สำหรับปี 2557 สนพ. มีแผนที่จะส่งเสริมโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน ที่สอดคล้องกับภารกิจแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี จำนวน 56 โครงการ โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้อนุมัติงบประมาณในส่วนแผนเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในการดำเนินงานแล้ว โดยโครงการสำคัญที่ได้รับการสนับสนุน อาทิ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องทำน้ำเย็น (Chiller) ในภาคอุตสาหกรรมและอาคารธุรกิจ โครงการส่งเสริมมาตรการอนุรักษ์พลังงาน โดยเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โครงการอนุรักษ์พลังงานสำหรับการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง (หลอด LED) เป็นต้น
สนพ. คาดว่าหากดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการอนุรักษ์พลังงาน 20 ปีตามที่กำหนด ในปี 2573 จะส่งผลให้สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ประมาณ 38,845 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อปี คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ราว 1.1 ล้านล้านบาท และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 140 ล้านตัน
อนึ่ง แผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (พ.ศ.2554- 2573) เป็นโครงการที่ สนพ. ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพลังงาน ในการส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายหลัก ประกอบด้วย ภาคอุตสาหกรรม ภาคขนส่ง ภาคอาคารธุรกิจและบ้านพักอาศัย เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศในระดับสากล มุ่งเป้าการลดความเข้มของการใช้พลังงานลงร้อยละ 25 ในปี 2573