กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ทีเค ปาร์ค กระตุ้นเด็กไทยอ่านหนังสือ ผ่านโครงการ Read Thailand : อ่านเถิด...เด็กไทยอ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา
หัวใจของการเพิ่มพูนความรู้ทางปัญญาคือการอ่าน เป็นสิ่งที่เจ้าฟ้านักอ่านของไทย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้ความสำคัญมาโดยตลอด ด้วยพระจริยวัตรและความสนพระทัยในการอ่าน การจดบันทึก การเขียน และการเรียนรู้ ที่เหล่าพสกนิกรได้เห็นและซึมซับอย่างปลื้มปริ่มใจ จนถือพระองค์เป็นต้นแบบนักอ่านของไทย โดยสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และหน่วยงานภาคเอกชนได้ดำเนินโครงการ “Read Thailand : อ่านเถิด...เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน” เนื่องในศุภวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2558 นี้ โดยเริ่มโครงการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556-เมษายน 2557 กระตุ้นการส่งเสริมการอ่าน การเรียนรู้ในเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 5 ของโรงเรียนในทุกสังกัดทั่วประเทศ โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมประกวดรวม3,932 แห่ง และได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย 37 แห่ง เพื่อเข้าชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 7 เมษายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ดร.สิริกร มณีรินทร์ ประธานคณะอนุกรรมการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) และ กรรมการบริหารสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์กรมหาชน) กล่าวว่า “สถานการณ์การอ่านหนังสือของคนไทย ที่ทราบมากันตลอดว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 8 บรรทัด TK Park ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ทั่วประเทศ จึงได้รณรงค์ส่งเสริมการอ่านทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ Read Thailand : อ่านเถิด...เด็กไทย อ่านถวายเจ้าฟ้านักอ่าน ซึ่งผลปรากฏว่ามีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการเกือบ 4,000 แห่ง โดยเลือกนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เนื่องจากสามารถเริ่มวิเคราะห์ได้ดี และมีความนิ่ง ในขณะที่ป.4 ยังเพิ่งเริ่มต้น และ ชั้น ป.6 อาจมีความกังวลเรื่องการสอบเข้าต่อสถาบันอื่นๆ จึงได้รับการวัดผล 120,054คน ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมโครงการโดยตรง เนื่องจากเกณฑ์ด้านหนึ่งในการตัดสินคือด้านบริหาร จัดการ ส่งเสริมการอ่าน โครงการฯ นี้ จึงส่งผลครอบคลุมนักเรียน 1,061,398 คน ที่จะได้รับการสร้างนิสัยรักการอ่าน และการเรียนรู้ร่วมไปกับการประกวดครั้งนี้ ซึ่งเราได้แบ่งการแข่งขันของโรงเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม คือโรงเรียนขนาดเล็ก (มีนักเรียนไม่เกิน 150 คน) โรงเรียนขนาดกลาง (มีนักเรียน 150-300 คน) และ โรงเรียนขนาดใหญ่ (มีนักเรียน 300 คนขึ้นไป) มีเกณฑ์การตัดสิน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านบริหาร จัดการส่งเสริมการอ่าน, ด้านมาตรฐานส่งเสริมการอ่าน, ด้านประสิทธิภาพของแหล่งเรียนรู้ ห้องสมุดมีชีวิต, ด้านผลที่เกิดกับผู้เรียนและบุคลากรในสถานศึกษา และ ด้านคุณภาพเชิงประจักษ์ ที่เกิดกับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เข้าร่วมโครงการ โดยได้มีคณะทำงานคัดเลือกหนังสือที่แนะนำว่าเหมาะสมกับชั้นป.5 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ หนังสือพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพฯ ,หนังสือที่สอดคล้องกับกลุ่มสาระ และ บทอาขยาน เมื่อเด็กอ่านแล้วต้องเก็บความรู้ ได้บันทึก ได้วิเคราะห์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมที่ผ่านมาได้ส่งคณะกรรมการระดับชาติลงพื้นที่สำรวจเก็บข้อมูล ในโรงเรียนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 37 แห่ง ที่จะเข้ามาจัดนิทรรศการ และนำเสนอวิธีการที่โรงเรียนได้ส่งเสริมการอ่านเพื่อให้คณะกรรมการได้พิจารณาตัดสินว่าโรงเรียนใดควรจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ ค่ะ”
มั่นใจได้ว่า TK Park เป็นหน่วยงานหลักที่รณรงค์ส่งเสริมการอ่านตามภารกิจหลักขององค์กร ไม่ว่าผลการประกวดจะตกเป็นของโรงเรียนใดก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญที่ดีที่สุด ที่ทุกโรงเรียนได้รับอย่างแน่นอน คือนิสัยรักการอ่าน ที่จะถูกปลูกฝังอย่างยั่งยืน สู่การเป็นผู้ใฝ่รู้เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไป
ดร.สิริกร มณีรินทร์ ประธานคณะอนุกรรมการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) และ กรรมการบริหารสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์กรมหาชน)