กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--ปตท.
คว้าอันดับ 1 จาก 6 ใน 9 หมวดรางวัล โดย FinanceAsia นิตยสารการเงินการลงทุนชั้นนำของเอเชีย กวาดอันดับหนึ่ง ทั้งรางวัลผู้นำองค์กรที่ดีที่สุดของไทย รางวัลผู้บริหารการเงินที่ดีที่สุดของไทย รางวัลบริษัทที่ดีที่สุดของไทย รางวัลบริษัทธรรมาภิบาลที่ดีที่สุดของไทย รางวัลกิจกรรมเพื่อสังคมที่ดีที่สุดของไทย และ รางวัลนโยบายผลตอบแทนที่ดีที่สุดของไทย พร้อมทั้งคว้าอันดับ 5 ในหมวดรางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ที่ดีที่สุดของไทยอีกด้วย
นายประเสริฐ สลิลอำไพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นประจำปี 2556 โดย FinanceAsia นิตยสารการเงินการลงทุนชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ และนักการเงิน ชั้นนำ ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยจัดอันดับบริษัทที่ดีที่สุดใน 9 ประเภทรางวัล ของประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย 10 ประเทศ (ไทย จีน ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เกาหลี และสิงคโปร์) ปรากฏว่า ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และ นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท. ได้รับรางวัลผู้นำองค์กรที่ดีที่สุดของไทย (Best CEO Award) และ รางวัลผู้บริหารการเงินที่ดีที่สุดของไทย (Best CFO Award) ตามลำดับ ในขณะที่รางวัลประเภทองค์กร ปตท.ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดีที่สุด (Best Managed Company Award) มีธรรมาภิบาลที่ดีที่สุด (Best Corporate Governance Award) เป็นบริษัทที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่ดีที่สุด (Best Corporate Social Responsibility Award) และ รางวัลบริษัทที่มีนโยบายผลตอบแทนที่ดีที่สุด (Best Commitment to Strong Dividend Policy)
นอกจากนี้ ปตท.ยังได้รับรางวัลนักลงทุนสัมพันธ์ที่ดีที่สุดในอันดับที่ 5 (Ranked 5th in Best Investor Relations Award) อีกด้วย
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ปตท. คือ บริษัทพลังงานของคนไทย แปรรูปเป็นบริษัทมหาชนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยยังคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาลผ่านกระทรวงการคลัง มีภารกิจหลักในการดูแลความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) อย่างเป็นธรรมและเหมาะสม ซึ่งรางวัลที่สะท้อนถึงการยอมรับทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงการบริหารงานที่โปร่งใส หากแต่ยังเป็นพลังผลักดันให้ปตท.ดำเนินงานตามภารกิจเพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนตลอดไป