กรุงเทพ--5 พ.ย.--กฟน.
นายสมบุญ ขาวสำอาง ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยทรุดตัวลงในช่วงนี้ ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตความรับผิดชอบของกฟน. ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรีและสมุทรปราการ มียอดการใช้ไฟฟ้าลดลง ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนมีการประหยัดมากขึ้น อีกทั้งเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีปริมาณลดลงตามไปด้วย
ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยต่อไปว่า จากการสำรวจการใช้ไฟฟ้าพบว่า สถานที่ราชการบริษัทหรือห้าสรรพสินค้าหลายแห่งมีการควบคุมค่าใช้จ่ายของตนเองมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในส่วนสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า มีการเปิดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าน้อยลง โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศในห้างสรรพสินค้าและบริษัทมีการลดจำนวนการเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือ มีการเปิด-ปิดการใช้ไฟฟ้าในสำนักงานให้เป็นเวลามากขึ้น นอกจากนี้แล้วบริษัทหลายแห่งยังได้ลดวันทำงานหรือปิดกิจการลงหลายแห่ง ทำให้การใช้ไฟฟ้าลดลงไปด้วย จากสถิติการใช้ไฟฟ้าในเขตความรับผิดชอบของกฟน.พบว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสถิติการใช้ไฟฟ้ามีปริมาณลดลง โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงุดในแต่ละเดือนอยู่ที่ระดับประมาณ 5,300-5,500 เมกกะวัตต์ จากสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุด 5,963 เมกกะวัตต์ และคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจะลดลงอีก ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวด้วย อย่างไรก็ตามการที่ประชาชนหันมาประหยัดไฟฟ้านับเป็นผลดีต่อผู้ใช้ไฟฟ้าเองและต่อประเทศชาติ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของตนเองแล้วยังช่วยประหยัดทรัพยากรของชาติในการผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย
ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ประกบอการในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน กฟน.ได้ให้ความช่วยเหลือในการผ่อนผันการชำระหนี้ค่าไฟฟ้า โดยการขยายเวลาชำระหนี้จากเดิมภายใน 7 วันเป็นภายใน 30 วัน โดยผู้ที่ประสบปัญหาการเงินติดต่อได้กับการไฟฟ้านครหลวงในพื้นที่เขตจำหน่ายของท่านโดยตรง ซึ่งกฟน.จะพิจารณาให้เป็นรายๆ ไป ค่าไฟฟ้าที่ผ่อนผันนั้นต้องไม่เกินวงเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 251-5175-7 โทรสาร 253-7210--จบ--