กรุงเทพ--14 ต.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2540 เวลา 11.00 น. ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง และตัวแทนจากบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างฯ ได้เดินทางไปตรวจสะพานรถยนต์ข้ามทางแยกถนนพระราม 9 หลังจากที่เปิดใช้แล้วเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ภายหลังการตรวจผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สะพานดังกล่าวมีลักษณะเป็นโครงสร้างเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจรเป็นขาเข้า 2 ช่อง ขาออก 2 ช่อง ระยะทาง 2,750 เมตร สำหรับจุดขึ้นลงเริ่มจากโค้งอโศกดินแดง บริเวณซอยสุทธิพร 1 แนวสะพานไปตรมถนนอโศกดินแดง และพระราม 9 ข้ามแยกถนนรัชดาภิเษกแยก อ.ส.ม.ท. และแยกกรมการผังเมือง ไปสิ้นสุดที่บรเวณคลองยมราชใกล้กับโรงพยาบาลปิยะเวท สำหรับมาตรฐานของการก่อสร้างสะพานดังกล่าวนั้นมีความมั่นคงแข็งแรงมาก เพราะสร้างด้วยเหล็กป้องกันสนิมไม่ก่อให้เกิดปัญหาการสึกกร่อน นอกจากนี้ในส่วนของรอยต่อระหว่างแผ่นเหล็กที่อยู่บนสะพานก็ใช้วิธีการสมัยใหม่ โดยรวมเหล็กกับซีเมนต์ให้เกิดคานเรียบ อีกทั้งโหลดการรับน้ำหนักมีความแข็งแรงสามารถรับการจราจรได้มาก ที่สำคัญลดการสั่นสะเทือนของสะพานได้ 4-5 เท่า เพราะรอยเชื่อมต่อมีความทันสมัย จึงทำให้เกิดการสั่นสะเทือนน้อย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่เปิดใช้สะพานดังกล่าวแล้ว สภาพการจราจรพื้นราบมีความคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากรถที่วิ่งทางไกลส่วนใหญ่ได้หลีกไปใช้สะพาน เพราะไม่ต้องเสียเวลาติดไฟแดงตามแยกต่าง ๆ จึงทำให้ร่นระยะเวลาเดินทางของผู้ขับขี่รถจากใจกลางเมืองที่มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกไปจังหวัดชลบุรีได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสภาพการจราจรบริเวณโบสถ์แม่พระยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะรถที่ลอดอุโมงค์ดินแดงจะติดขัดบ้าง ตนจึงมอบหมายสำนักการจราจรและขนส่งไปพิจารณาปรับสัญญาณไฟให้รถที่มาจากถนนประชาสงเคราะห์ทั้งหมดเลี้ยวซ้ายได้เพียงอย่างเดียว โดยให้ไปกลับรถเพื่อมุ่งหน้าไฟยังอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งจะทำให้รถในด้านกลับกันสามารถวิ่งตรงมาเพื่อขึ้นสะพานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้จะเร่งให้การไฟฟ้านครหลวงวางท่อไร้สายใต้ดินบนถนนพระราม 9 ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน นี้ เพื่อเปิดผิวจราจรเพิ่มอีก 1 ช่อง
ในส่วนความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และแยกรามคำแหง ซึ่งเป็นโครงการร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานครและรัฐบาลนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาจากรัฐบาลจะมีงบประมาณดำเนินการหรือไม่ แต่ถ้าโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาจราจรได้เป็นอย่างมาก--จบ