กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้นบมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลปี”56 เพิ่มอีก 0.10 บาท รับเงิน 29 เม.ย.นี้ รวมทั้งปีรับทรัพย์จากเงินปันผล 0.30 บาท/หุ้น “สมพล ธนาดำรงศักดิ์”มั่นใจปี”57 ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง หลังบุกตลาดสหรัฐอเมริกา คาดดันมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม กำไรพุ่งตาม เผยขณะนี้เริ่มมีออเดอร์เข้ามาแล้ว!!!! เล็งขยายตลาดอาเซียนรองรับเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติจัดสรรเงินสำรองตามกฎหมายเป็นจำนวน 9,562,293.43 บาท เงินปันผลประจำปี 2556 เพิ่มอีกเป็นจำนวนหุ้นละ 0.10 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งถือหุ้นรวมจำนวนทั้งสิ้น 295,000,000 หุ้น คิดเป็นเงินปันผล จ่าย 29,500,000 บาท เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่บริษัทจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นแล้ว จำนวนหุ้นละ 0.20 บาท สำหรับผลประกอบการของบริษัทงวด 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2556 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 จะรวมเป็นเงินปันผลจ่ายในปี 2556 ทั้งสิ้น จำนวนหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 88,498,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเกินกว่า 54% ของกำไรสุทธิ หลังหักภาษีเงินได้ตามงบการเงินของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ทั้งนี้ ให้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 4 มีนาคม 2557 และให้รวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์โดยวิธีการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันที่ 5 มีนาคม 2557 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 29 เมษายน 2557? ส่วนผลการดำเนินงานของ FPI ในปี 2556 มีกำไรสุทธิ 163.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 มีกำไรสุทธิ 159.03 ล้านบาท ?นายสมพล กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2557 ว่า จะมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำไรขั้นต้นสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลกำไรบริษัทมากขึ้น โดยขณะนี้เริ่มมีออเดอร์ เข้ามาบ้างแล้วจากบรรดาบริษัทชั้นนำ ?“สหรัฐอเมริกาจะเป็นตลาดส่งออกใหม่ที่มีศักยภาพของเรา ซึ่งมีขนาดใหญ่มากกว่าไทยถึง 5 เท่า จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) และกำไรมากขึ้น ขณะเดียวกันในช่วงก่อนหน้านี้ยังได้ลงทุนแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก ทั้งนี้ หากมีออเดอร์ใหม่เข้ามาจากสหรัฐอเมริกา จะต้องมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของแม่พิมพ์ โดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 250 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกจะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง”นายสมพลกล่าวในที่สุด? นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางแผนตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลงทุนสำนักงานใหม่ เพื่อรองรับบุคลากรใหม่ๆ ในการขยายตลาด รวมทั้งจะมุ่งเน้นทำธุรกิจซื้อมาขายไป (Trading) อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ (Engine Part) โดยจะมีการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มยอดขาย ซึ่งจะทำให้รายได้และกำไรของบริษัทขยายตัวต่อไปในอนาคต