กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--อินโดรามา เวนเจอร์ส
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล แจ้งการเข้าซื้อกิจการในสัดส่วนร้อยละ 51 ในบริษัท SASA Polyester Sanayi A.? (SASA) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์และ PET ชั้นนำในประเทศตุรกีจากบริษัท Hac?OmerSabanc? Holding A.?. (Sabanc? Holding)โดยผ่านบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 100Indorama Netherlands B.V. (IBV)บริษัท SASA เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสตันบูล และอินโดรามา เวนเจอร์สจะดำเนินการยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนดสำหรับหุ้นส่วนที่เหลือในบริษัท SASA อีกร้อยละ 49 ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของคณะกรรมการกำกับตลาดทุนของประเทศตุรกี
บริษัท SASA มีสายการผลิตวัตถุดิบและโพลีเมอร์แบบครบวงจร โดยมีการผลิตสารตั้งต้นประเภทไดเมทิลเทเรฟทาเลต (DMT)เส้นใยเส้นด้าย PET พอลิบิวทิลีนเทเรพแทเลต (PBT)และผลิตภัณฑ์เคมีชนิดพิเศษมีกำลังการผลิตรวม600,000 ตันต่อปีเพื่อให้บริการลูกค้าในตลาดตุรกีและสหภาพยุโรปด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าว “การเข้าซื้อกิจการSASA เป็นอีกก้าวที่น่าตื่นเต้นสำหรับอินโดรามา เวนเจอร์ส ช่วยให้เราขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัท SASA เป็นผู้ผลิตที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในประเทศตุรกี และเป็นก้าวแรกสำหรับไอวีแอลในการเข้าสู่ตลาดตุรกี ช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม เพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราให้สามารถรองรองรับกลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต ตลาดตุรกีจะช่วยเสริมศักยภาพของเราในการเติบโตยอดขายภายในประเทศและเปิดโอกาสในการจำหน่ายไปยังพื้นที่โดยรอบที่ยังไม่มีการเข้าถึงอีกด้วย”
“การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ใน 3 มิติของเรา ได้แก่ การขยายธุรกิจไปยังตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและยังไม่มีการเข้าถึง การรวมตัวในแนวนอนไปยังผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มเพื่อนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น และการรวมตัวในแนวดิ่งไปยังวัตถุดิบ เช่นเดียวกับที่ SASA มีการรวมตัวไปยังวัตถุดิบที่อยู่ในบริเวณโรงงานเดียวกัน” นายโลเฮียกล่าว “บริษัท SASA มีเทคโนโลยีและความชำนาญสูง ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้อินโดรามา เวนเจอร์ส เนื่องจาก SASAเป็นบริษัทที่ให้บริการลูกค้าในกว่า 54 ประเทศทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายกว่า 150 ชนิด นอกจากนี้ตุรกีเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งที่เชื่อมโยงระหว่างยุโรป แอฟริกาเหนือ เอเชียกลางและตะวันออกกลาง ทำให้มีศักยภาพในการเติบโตทั้งตลาดภายในและตลาดต่างประเทศโดยรอบรวมทั้งยุโรป ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศตุรกีเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้ส่งออกไปยังตลาดหลักในยุโรป เราคาดการณ์ว่า สินทรัพย์นี้จะเป็นเหมือนเพชรน้ำงามสำหรับเราในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดตุรกีและเป็นส่วนประกอบที่ลงตัวสำหรับแผนการขยายธุรกิจของเราในภูมิภาค”
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการทำรายการให้กับบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)