กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--เวเบอร์ แชนด์วิค
FlexPodนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาร่วมกันของซิสโก้และเน็ตแอพโดยรวมเครือข่าย ประมวลผล และสตอเรจไว้ในโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน ได้ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานร่วมกับโซลูชั่นชั้นนำอย่างไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยโมเดลดังกล่าวจะทำให้ลูกค้ารวมถึงผู้แทนจำหน่ายใช้งานโซลูชั่นร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ศักยภาพของเน็ตแอพ ซิสโก และโครงสร้างของFlexPodที่พาร์ทเนอร์ทั้งสองร่วมสร้างกับไมโครซอฟท์นั้น ทำให้เกิดชุดบริหารจัดการและการบริการที่สมบูรณ์ซึ่งมีมูลค่าและมีประสิทธิภาพแก่องค์กรอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ข้อดีของการใช้FlexPodกับไพรเวทคลาวด์ของไมโครซอฟท์ คือทำให้ใช้ระยะเวลาการเตรียมการลดลง เป็นหนทางที่ดีกว่าในการดึงศักยภาพผลิตภัณฑ์ไปใช้ และเป็นวิธีที่ง่ายกว่าในการจัดการและนำไปใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์นอกจากนี้ FlexPodยังได้พัฒนาความเป็นผู้นำในการให้บริการไปอีก ด้วยดีไซน์ที่ได้รับการรับรองอีก 6 รูปแบบที่สนับสนุนระบบคลาวด์ อาทิ การอัพเดตเวอร์ชันให้เชื่อมต่อไพรเวทคลาวด์ของไมโครซอฟท์ซึ่งได้รับรางวัลการันตี ในโซลูชั่น คลัสเตอร์ ดาต้า ออนแท็ป 8.2 (Data ONTAP 8.2) และโซลูชั่นที่รองรับเอซีไอเป็นระบบแรกของวงการ ที่มาพร้อมสวิตช์ตระกูลซิสโก้เน็กซัส 9000 (Cisco Nexus 9000 Series)
มุมมองของผู้นำ
“ด้วยความสามารถของFlexPodทำให้เราสามารถช่วยลูกค้า ลดต้นทุนและความซับซ้อนในเรื่องการจัดการดาต้าเซ็นเตอร์โดยการออกแบบนวัตกรรมที่ได้รับการทดสอบ และได้จัดเตรียมเอกสารของโซลูชั่นสำหรับธุรกิจที่ได้รับความนิยมต่างๆ โซลูชั่นFlexPodช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุน ประหยัดเวลาให้กับตัวแทนจำหน่าย และทั้งคู่ได้สินค้าที่มีสมรรถนะและสภาพพร้อมใช้งานมากขึ้น”คุณวีระ อารีรัตนศักดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เน็ตแอพ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
“ในฐานะผู้นำตลาดFlexPodยังมีความสำคัญมากในแง่ที่มืออาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจำเป็นต้องแน่ใจว่าพวกเขากำลังทำการตัดสินใจลงทุนที่คุ้มค่าเงินขององค์กรมากที่สุด การเป็นอันดับหนึ่งหมายถึงการเป็นโซลูชั่นที่ผ่านการทดสอบใช้งานมามากกว่า เป็นที่ยอมรับในตลาดมากกว่า และท้ายที่สุดคือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับบริษัทที่ธุรกิจต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ”คุณวีระ กล่าวเสริม
นี่เป็นบางส่วนของบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำของFlexPod
- FlexPodมีลูกค้ามากกว่า 3,300 คนทั่วโลก และมีอัตราการเติบโต 100% ต่อปี
- FlexPodมีได้รับการอ้างอิงจากผู้ใช้ตัวจริงมากกว่า100 รายการ โดยส่วนใหญ่ถูกกล่าวถึงอยู่ในเรื่องราวความสำเร็จของลูกค้า ในหมวด Customer Showcaseของเว็บไซต์เน็ตแอพ
- FlexPodได้รับรางวัล “The Best of TechEd” จากงาน Microsoft TechEdจากการเชื่อมต่อไพรเวทคลาวด์ของไมโครซอฟท์
- FlexPodได้รับรางวัลเหรียญเงินจากนิตยสาร Windows IT Pro ในสาขาอุปกรณ์ที่มีฮาร์ดแวร์ดีที่สุด (Best HardwareAppliance)
- FlexPodมีตัวเลือกด้านดีไซน์ไฮเปอร์ไวเซอร์ และแบบแบร์มีทัล ที่ได้รับการรับรองมากที่สุด ได้แก่ VMware vSphere, Microsoft Windows Server Hyper-V, Citrix XenServer, RedHat KVM, และ Oracle VM
- FlexPodมีอีโคซิสเต็มชั้นนำพร้อมดีไซน์ที่ได้รับการรับรองจาก 4 ใน 5 ผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ชั้นนำของโลก ได้แก่ VMware, Microsoft,SAP, Oracle และยังรวมถึง Citrix, Red Hat, ClouderaและHortonworks
- FlexPodมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 1,000 รายใน 84 ประเทศและเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
- FlexPodมีตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ มากถึง 9 จาก 10 บริษัทที่อยู่ในรายการ 10 อันดับแรกของอินทิเกรเตอร์ผู้ให้บริการรัฐบาลสหรัฐฯ และ 13 จาก 15 ของบริษัทซิสเต็มอินทิเกรเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก
- FlexPodให้ผลตอบแทนจากการลงทุนแก่ธุรกิจชั้นนำถึง 120% พร้อมทำให้คุ้มทุนภายใน 9 เดือน
- FlexPodโดดเด่นที่การประหยัด โดยมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรว่าช่วยลดเวลา ต้นทุน อุปกรณ์ พื้นที่ และพลังงานพร้อมการันตีการลดพื้นที่สตอเรจ 50%
FlexPodยังคงพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้วยอัตราการเติบโตและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีให้เห็นทุกไตรมาสและคาดว่าจะได้เห็นความต่อเนื่องต่อไปในอนาตต