กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาเก็ตติ้ง คอมมูนิเคชั่นส์
หลังจากที่มิวเซียมสยามได้เปิดตัวนิทรรศการชั่วคราว “มองใหม่ ด้ายไหม” ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้รู้จัก “ไหม” ในแง่มุมต่างๆ มากขึ้น พร้อมสร้างความประหลาดใจเมื่อรู้ว่ารอบๆ ตัวเรามีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไหมอยู่มากมายแต่เราไม่เคยรู้มาก่อน โดยนอกเหนือจากการทำเป็นเครื่องนุ่งห่มที่เหมาะกับสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาวแล้ว “เส้นไหม” ยังใช้ทำผ้าปิดแผล เสื้อเกราะกันกระสุน ส่วน “น้ำต้มรังไหม” สามารถนำมาทำคอนแทคเลนส์ ผสมในเครื่องสำอาง หรือสกัดเป็นผงผสมในอาหารเพื่อเพิ่มโปรตีนและเสริมรสชาติของอาหาร เป็นต้น
ล่าสุด มิวเซียมสยาม จึงได้จัดกิจกรรมทำอาหารกับเชฟบุ๊ค บุญสมิทธิ์ พุกกะณะสุต พิธีกรรายการ Foodwork ที่เพิ่งได้รับรางวัลรายการครอบครัวดีเด่น รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 28 มาหมาดๆ โดยในครั้งนี้นำ “ผงไหม” และ “ดักแด้ไหม” มาเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารทั้งคาวและหวาน ตั้งชื่อเก๋ไก๋ว่า “เมนูอวกาศ”
กิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ร้าน “โคคูน คาเฟ่” ภายในบริเวณจัดนิทรรศการ “มองใหม่ ด้ายไหม” ในบรรยากาศสบายๆ ยามเย็น มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหญิงและชาย รวมถึงเด็กๆ หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนก็ได้รับน้ำหม่อนไหมสูตรเฉพาะของทางร้านมาจิบให้ชื่นใจ ก่อนเข้าประจำที่ซึ่งมีอุปกรณ์ทำอาหารจัดเตรียมไว้บนโต๊ะครบครัน
“เมนูอวกาศ” ที่เชฟบุ๊คภูมิใจเสนอเป็นจานแรกคือ “คุกกี้อวกาศ” ซึ่งมีที่มาจากการที่นักบินอวกาศในหลายประเทศนิยมรับประทานคุกกี้ผสมผงไหม หรือดักแด้ไหม เพราะให้โปรตีนสูง อีกทั้งสะดวกในการบริโภคมากกว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่น โดยมีโครงการทดลองเลี้ยงไหมบนดาวอังคารเพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารในอนาคตของชาวโลกอีกด้วย
ขั้นตอนการทำ “คุกกี้อวกาศ” ของเชฟบุ๊คนั้นง่ายและรวดเร็ว แม้แต่เด็กๆ ก็ทำได้ เริ่มจากการละลายช็อกโกแลตแบบก้อนในเตาไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิประมาณ 400 - 600 องศา เป็นเวลา 1 นาที ใส่ส่วนผสมตามชอบ เช่น ถั่วชนิดต่างๆ คอร์นเฟลก และปิดท้ายด้วย “ผงไหม” หากใครชอบหวาน ก็ใส่น้ำเชื่อมลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ปล่อยไว้ประมาณ 5 -10 นาที คุกกี้ก็แข็งตัวพร้อมรับประทานได้แล้ว นอกจากนี้ เชฟบุ๊คยังเติมลูกเล่นด้วยการนำ “ดักแด้” จุ่มช็อกโกแลตแล้วนำไปแต่งบนคุกกี้ เพิ่มความน่ารับประทาน
อาหารจานที่สอง คือ “น้ำพริกดักแด้ไหม” ส่วนผสมเหมือนน้ำพริกหนุ่ม ที่มีพริกชี้ฟ้า กระเทียม และหอมแดงย่างไฟพอหอม โขลกให้เข้ากันแล้วผสมดักแด้ไหมปิดท้าย เท่านี้ก็พร้อมรับประทานกับผักจิ้ม โดยเชฟบุ๊คใช้เทคนิคการหั่นผักเป็นแท่งและจัดลงในแก้วน้ำ ทำให้ดูแปลกตาไปอีกแบบ
ระหว่างการทำอาหาร เชฟบุ๊คยังได้เดินไปพูดคุยกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมพร้อมแนะนำเทคนิคต่างๆ อย่างทั่วถึงและเป็นกันเอง ส่วนผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็มีการแบ่งปันเคล็ดลับการทำอาหารให้กันและกัน ทุกคนจึงกลับบ้านด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ ความภูมิใจในฝีมือทำอาหารของตัวเอง และสูตรอาหารที่สามารถนำกลับไปทำให้คนอื่นๆ ได้ชิมต่อไป
กิจกรรมสนุกๆ ของนิทรรศการ “มองใหม่ ด้ายไหม” ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ ดิจิตอล เกตเวย์ สยาม-สแควร์ ในวันเสาร์ที่ 19 เมษายนนี้ ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงเย็น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/museumsiamfan
สำหรับนิทรรศการ “มองใหม่ด้ายไหม” ยังคงเปิดให้ชมไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2557 ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 10.00 – 18.00 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. (ปิดวันจันทร์)