กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างโมเดลใหม่หนุนความเข้มแข็งของธุรกิจในชนบท พร้อมผลักดันยุวชนในเมืองให้กลายเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม โดยมีเจพีมอร์แกน วาณิชธนกิจชื่อดังระดับโลกสนับสนุนทั้งงบประมาณ และผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรอีกหลากหลายทั้งภาครัฐและเอกชน
รองศาสตราจารย์วิทยา ด่านธำรงกูล รองผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ทำข้อตกลงร่วมกับ เจพีมอร์แกน วาณิชธนกิจชื่อดังระดับโลกในโครงการความร่วมมือผลักดันการยกระดับธุรกิจขนาดย่อมในชนบท และการสร้างธุรกิจเพื่อสังคมในกลุ่มเยาวชน ซึ่งถือเป็นโครงการใหม่ที่ร่วมกันจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเจพีมอร์แกนจะมอบทุนดำเนินการในปีแรกจำนวนประมาณ 6 ล้านบาทให้มหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินงาน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก 3 กลุ่ม คือ ผู้ประกอบการใหม่ที่เพิ่งเริ่มตั้งกิจการ มุ่งจะเข้าไปเสริมสร้างความเข้มแข็ง และยกระดับให้สามารถแข่งขันได้ อีกกลุ่มคือผู้ที่มีความคิดอยากตั้งธุรกิจ โครงการจะเข้าไปสนับสนุนให้คำแนะนำจนสามารถก่อตั้งและดำเนินธุรกิจได้ ส่วนกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มเยาวชนในเมืองที่จะสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวและทำธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprises คือ เป็นธุรกิจที่มีนโยบายหลักที่จะสร้างสิ่งดีๆ เพื่อสังคม มีการคืนกลับให้สังคมโดยยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
โดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะใช้สถาบันภายในที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ 3 แห่งเข้ามาประสานงานผลักดันโครงการ ได้แก่ สถาบันทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยโลกคดีศึกษา และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของสามสถาบันของธรรมศาสตร์ จะสามารถสร้างผู้ประกอบการชุมชนให้เกิดและประสบความสำเร็จได้จำนวนอย่างน้อย 400 รายภายในต้นปีหน้า
“โครงการนี้นอกจากมีหน่วยงานหลักของธรรมศาสตร์ทั้งสามดังกล่าวแล้ว เรายังขยายพันธมิตรออกไปสู่หลายองค์กรเพื่อสร้างเครือข่ายและเสริมความเข้มแข็ง โดยจะได้รับความช่วยเหลือทั้งในเรื่องพื้นที่การปฏิบัติงาน การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ และการให้ความรู้จากการเคหะแห่งชาติ ซึ่งมีพื้นที่เคหะชุมชนและบ้านเอื้ออาทรครอบคลุมทั่วประเทศ ประชาชนในชุมชนเหล่านี้มีการรวมตัวกันตั้งธุรกิจขนาดเล็ก หรือมีความคิดจะจัดตั้งธุรกิจของชุมชนอยู่ เราก็จะเข้าไปสนับสนุนให้ความรู้ ทั้งในรูปการให้การอบรมการจัดหาที่ปรึกษาคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือ รวมถึงพันธมิตรอย่างเช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่จะให้ความรู้ในเรื่องการจัดหาและการบริหารเงิน ส่วนบริษัทบางจากปิโตรเลียมก็อาจเข้ามาสนับสนุนเรื่องการตลาดได้ “ รศ.วิทยา ด่านธำรงกูล เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการ
“เจพีมอร์แกนดีใจที่ได้มาร่วมมือกับธรรมศาสตร์ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจชุมชนและสร้างเยาวชนคนหนุ่มสาวให้หันมาทำธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจของเจพีมอร์แกนที่ให้การสนับสนุน ลักษณะเช่นนี้ในทุกพื้นที่ทั่วโลก” หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ประเทศไทย เจพีมอร์แกน เปิดเผย
สำหรับเป้าหมายของโครงการนี้ ในกลุ่มธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้วในชนบท ตั้งเป้าให้สามารถเจาะตลาดได้เพิ่มขึ้น สามารถขยับรายได้และกำไรเพิ่มอย่างน้อย 10-15% ส่วนกลุ่มที่ยังมีเพียงความคิดธุรกิจจะได้รับการผลักดันให้เกิดสินค้าหรือบริการจริง สามารถจัดตั้งกิจการได้ ไม่น้อยกว่า 80% เช่นเดียวกับกลุ่มเยาวชนในเมือง ซึ่งรวมทั้งสามกลุ่มแล้วต้องการให้ครอบคลุม ผู้ประกอบการราว 400รายในพื้นที่ต่างๆ โดยจะมีกลุ่มคณาจารย์ นักศึกษาปริญญาโท รวมถึงนักธุรกิจที่เป็นศิษย์เก่าของสถาบันลงไปร่วมให้การอบรมเป็นพี่เลี้ยงติดตามการดำเนินงานและให้ความช่วยเหลือเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปีนับจากนี้ ทั้งนี้ความสำเร็จของธุรกิจขนาดเล็กในชุมชนเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ การโยกย้ายเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่ และลดปัญหาสังคมในพื้นที่ได้อีกด้วย