กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--บมจ.สหการประมูล
บมจ.สหการประมูลเผยไตรมาส 2 รถยึดจากไฟแนนซ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดทั้งปีจะมีรถเข้าสู่ตลาดประมูลประมาณ 1.2 แสนคัน เร่งปรับกลยุทธ์กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ทั้งนักลงทุนและขยายฐานลูกค้ากลุ่มเอ็นยูสเซอร์ ผ่านกิจกรรมคัดรถสวยจากไฟแนนซ์ไตรมาสละ 3 ครั้ง ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีโตประมาณ 10-20%
นายบูรณิศยุกตะนันทน์ หัวหน้าสำนักงานกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสองว่ายังคงมีแนวโน้มที่ดีแม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะส่งผลกระทบบ้าง การประเมินตลาดต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจซื้อของลูกค้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายใน 3 เดือนแรกของปีนี้ตลาดยังเติบโตตามที่ได้คาดการณ์ไว้ ส่วนไตรมาสที่ 2 นั้นตลาดประมูลรถยนต์มือสองน่าจะยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ เนื่องจากสถาบันการเงินได้ส่งสัญญาณว่าจะส่งรถยึดเข้ามาประมูลขายในปริมาณที่มากขึ้น เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจตกต่ำจึงส่งผลต่อการผ่อนชำระของประชาชนที่เช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งทางสถาบันการเงินได้ออกมายอมรับว่าแนวโน้มหนี้เสียนั้นได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะพบยอดการผิดนัดชำระหนี้เริ่มมีปริมาณสูงตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้มีรถยึดเข้าสู่ตลาดรถยนต์มือสองในปริมาณที่เพิ่มขึ้นส่วนตลาดในไตรมาสที่ 3 นั้นต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป
“เมื่อมีปริมาณรถยนต์เข้าสู่ตลาดมากขึ้น สหการประมูลจึงได้ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ให้สอดคล้องกับลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม คือกลุ่มผู้ประกอบการซึ่งถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของตลาดประมูล และกลุ่มผู้ซื้อใช้เองหรือเอ็นยูสเซอร์ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 10% สหการประมูลจึงมีนโยบายเร่งขยายตลาดกลุ่มผู้ซื้อรายย่อยให้มากขึ้น ผ่านกิจกรรมประมูลรถสวยอายุการใช้งานน้อย ซึ่งจะจัดประมูลประมาณ 3 ครั้งต่อไตรมาส เพื่อดึงดูดให้กลุ่มเอ็นยูสเซอร์เข้ามาประมูลซื้อใช้เอง”นายบูรณิศกล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่า กิจกรรมดังกล่าวจะไม่แข่งขันกับผู้ประกอบการเต้นท์รถ เนื่องจากรถยนต์สวยที่คัดมาจะมีคุณภาพดีและราคาจะสูงกว่ารถทั่วไปซึ่งลูกค้าซื้อใช้เองมักต้องการซื้อรถประเภทนี้ ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนจะประมูลซื้อรถที่หลากหลายในระดับราคาที่เหมาะสมเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าการทำตลาดกับลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มน่าจะทำให้ยอดขายในปีนี้โตกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 10-20% เนื่องจากปีที่ 2556 มีรถยนต์เข้ามาสู่ระบบการประมูลประมาณ 1 แสนคัน แต่ปีนี้คาดว่าจะมีทั้งสิ้นประมาณ 1.1-1.2 แสนคัน
นายบูรณิศกล่าวเพิ่มเติมถึงราคารถยนต์มือสองว่า ช่วงปีที่ผ่านมาราคารถมือสองลดต่ำลงประมาณ 20% จึงทำให้ช่วงนั้นตลาดเป็นของผู้ซื้อ เนื่องจากราคารถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 2 ปี ราคาถูกกว่ารถใหม่ประมาณ 40% แต่จากนี้ไปราคารถยนต์มือสองเริ่มนิ่ง และก่อนที่ราคารถจะเข้าสู่ภาวะทรงตัวเชื่อว่าผู้ประกอบการรถยนต์มือสองจะต้องรีบซื้อรถเข้าสต๊อกเพื่อขายในช่วงราคาดีดขึ้น รวมทั้งต้องการให้ผู้ซื้อมีทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งเรื่องยี่ห้อและรุ่นรถ เนื่องจากเต้นท์รถยนต์ส่วนใหญ่ต้องการมีรถเสนอขายในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า สำหรับผู้ที่สนใจร่วมประมูลซื้อ-ขายรถยนต์สอบถามข้อมูลรถยนต์ได้ที่โทรศัพท์ 0-2934-7344 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.union-auction.com