กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) ร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี อวดโฉมต้นแบบนวัตกรรมเครื่องให้อาหารเหลว หรือ EnteralFeeding Pumpเครื่องแรก ที่คิดค้นและผลิตจากฝีมือคนไทยภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ วิจัยและพัฒนา ระหว่าง สจล. และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โดยชูจุดเด่นในการเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านสาธารณสุขของประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการให้บริการผู้ป่วยในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมกับการยกระดับอุปกรณ์ทางการแพทย์จากฝีมือคนไทยให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตและวางจำหน่ายได้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการนำเข้าอุปกรณ์สาธารณสุขจากต่างประเทศ และลดค่ารักษาพยาบาลของผู้ป่วยได้นอกจากนี้ นวัตกรรมเครื่องให้อาหารเหลวดังกล่าว ยังได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้งานเพิ่มขึ้น โดยมีการติดตั้งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับอุปกรณ์แทนการใช้ปลั๊กไฟ ทำให้ผู้ป่วยสามารถพกพาอุปกรณ์ติดตัวไปได้ทุกที่ พร้อมทั้งมีการปรับลักษณะการทำงานของตัวเครื่อง ให้สามารถต่อสายยางพ่วงเข้ากับถุงบรรจุอาหารเหลวแบบสุญญากาศได้ทันที ทำให้อากาศที่มีเชื้อโรคต่างๆปนเปื้อนอยู่ ไม่สามารถผ่านเข้ามาในถุงบรรจุอาหารเหลว จึงลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ดีกว่าเครื่องให้อาหารเหลวในรูปแบบเดิมพร้อมกันนี้ ได้มีการแนะนำและสาธิตวิธีการใช้งานเครื่องให้อาหารเหลวฝีมือคนไทยเป็นครั้งแรก เพื่อสะท้อนถึงความพร้อมของอุปกรณ์นวัตกรรมดังกล่าว ก่อนจะมีการนำมาให้บริการผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยวิกฤติ ตลอดจนผู้ป่วยจากอุบัติเหตุ ที่มีความจำเป็นต้องรับอาหารผ่านสายยาง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวต่าง ๆ เช่น วันสงกรานต์ ที่ถือเป็นช่วง 7 วันอันตราย ซึ่งมีสถิติผู้ป่วยจากอุบัติเหตุมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม งานแถลงข่าว นวัตกรรมสาธารณสุขเพื่อประชาชน ภายใต้ความร่วมมือของ สจล. และโรงพยาบาลรามาธิบดี จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 ณ ห้องประชุม 701 ชั้น 7 อาคารสำนักงานอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 หรือเข้าไปที่ www.pr.kmitl.ac.th
นายวสันต์ ทิมา หัวหน้างานอุปกรณ์การแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวถึงที่มาของการจับมือกับ สจล. ในการร่วมกันผลิตนวัตกรรมด้านสาธารณสุขร่วมกันว่า การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการผู้ป่วยในโรงพยาบาล แต่ขณะเดียวกัน ในเวลาที่เราต้องการนำอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้งาน กลับพบปัญหาด้านต้นทุนในการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ ที่มีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลกระทบให้ต้นทุนในการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยมีราคาสูงตามไปด้วย ทั้งนี้การบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลรามาธิบดี และ สจล. จึงเกิดขึ้นมา โดยมีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมการศึกษาวิจัย และการบูรณาการองค์ความรู้ในศาสตร์ที่ทั้งสองหน่วยงานต่างมีความเชี่ยวชาญต่างกัน นั่นคือศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กับศาสตร์
ด้านวิศวกรรมเข้าด้วยกัน อันจะนำไปสู่เป้าหมายในการพัฒนาขีดความสามารถของอุปกรณ์นวัตกรรมด้านสาธารณสุขในรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีต้นทุนต่ำลง เพราะสามารถผลิตได้ในประเทศไทยและนำมาต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อีกทั้งยังตอบโจทย์ในแง่ของการรองรับผู้ป่วยในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวที่มักจะพบสถิติการเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย จึงเป็นช่วงที่โรงพยาบาลจะต้องเตรียมความพร้อมของเครื่องมือและอุปกรณ์ในการรองรับผู้ป่วยมากกว่าปกติ แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการควบคุมด้านต้นทุนของอุปกรณ์ ดังนั้น ความร่วมมือดังกล่าวจึงมีส่วนช่วยให้การปรับปรุงพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีความก้าวไกลยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยต่อไปในอนาคต
อาจารย์ดุสิต สุขสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นักวิจัยเจ้าของผลงานนวัตกรรมเครื่องให้อาหารเหลวฝืมือคนไทยกล่าวว่าสจล. และคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสาธารณสุขร่วมกันเมื่อปี พ.ศ. 2556 โดยมีระยะเวลาของความร่วมมือทั้งสิ้น 5 ปี ภายใต้กรอบการดำเนินงานวิจัยใน4 ทิศทางด้วยกัน คือ 1. การพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาแพทย์ 2. การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้บริการผู้ป่วย 3. การพัฒนาขีดความสามารถของอุปกรณ์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรในโรงพยาบาล และ 4. การจัดทำระบบการสื่อสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิคส์ไฟล์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสอนแก่คณาจารย์ของคณะแพทยศาสตร์ โดยบทบาทของ สจล. ภายใต้ความร่วมมือนี้ คือการนำความรู้ด้านวิศวกรรมสมัยใหม่ มาช่วยในการปรับปรุง พัฒนา และคิดค้นนวัตกรรมด้านสาธารณสุข ที่เป็นประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์และตัวผู้ป่วย ดังตัวอย่างของนวัตกรรมเครื่องให้อาหารเหลวทางสายยาง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีการนำระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาประยุกต์ใช้ ทำให้เครื่องให้อาหารเหลวมีประสิทธิภาพในด้านการใช้งานมากขึ้นในหลายด้าน เช่น สามารถพกพาติดตัวไปในที่ต่างๆ ได้ เพราะตัวเครื่องได้รับการพัฒนาให้เป็นระบบชาร์จไฟในตัว ทำให้ไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กไว้เมื่อต้องการใช้งาน และตัวเครื่องยังถูกออกแบบให้สามารถต่อสายยางเข้ากับถุงบรรจุอาหารเหลวชนิดสุญญากาศ ซึ่งเป็นสูตรอาหารของโรงพยาบาลรามาฯ ได้ทันที จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของผู้ป่วย ที่เกิดจากการที่อากาศภายนอกเข้าไปสัมผัสกับอาหารเหลว นอกจากนี้ นวัตกรรมดังกล่าว ยังสามารถต่อยอดเพื่อนำไปวางจำหน่ายได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจากเดิมที่ต้องมีการนำเข้าเครื่องมือชนิดนี้จากต่างประเทศ โดยมีต้นทุนประมาณ 60,000 บาท แต่เมื่อคนไทยสามารถผลิตเครื่องให้อาหารเหลวได้เอง ก็จะทำให้ต้นทุนลดลงเหลือประมาณ 10,000 – 15,000 บาทต่อเครื่องเท่านั้นจึงถือเป็นต้นแบบของนวัตกรรมด้านสาธารณสุขที่มีส่วนช่วยยกระดับชีวิตคนไทยทั้งนี้ ทาง สจล. ได้วางแผนในการพัฒนานวัตกรรมสาธารณสุขรูปแบบอื่นๆ ในอนาคตเพิ่มเติมอีก อาทิ นวัตกรรมเตียงป้องกันแผลกดทับของผู้ป่วย เครื่องเติมน้ำสะอาดใส่เครื่องออกซิเจน เครื่องเจาะน้ำออกจากสมองชนิดจับเวลาได้ รวมไปถึงการพัฒนาสื่อการสอนนักศึกษาแพทย์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไฟล์ ซึ่งผลงานทั้งหมดล้วนสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ สจล. ในปีนี้ ที่มีเป้าหมายในการพัฒนางานวิจัยเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับประเทศในทุกด้าน โดยเริ่มต้นรากฐานด้านสาธารณสุข ที่นับเป็นหนึ่งรากฐานสำคัญของคนไทยทุกคนเช่นกัน
สำหรับงานเปิดตัวนวัตกรรมสาธารณสุขเพื่อคนไทย ภายใต้ความร่วมมือของ สจล. และโรงพยาบาลรามาธิบดี จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2557 ณ ห้องประชุม 701 ชั้น 7 อาคารสำนักงานอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 หรือเข้าไปที่ www.pr.kmitl.ac.th