กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--เอไอเอส
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “จากการที่เอไอเอส กลุ่มสิงค์เทล และซัมซุง ได้ประกาศความร่วมมือ เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับในการใช้งานโมบายดาต้าที่สมบูรณ์แบบและครบถ้วนให้กับลูกค้า และให้ผู้ใช้บริการมือถือทั้งกว่า 500 ล้านรายทั่วภูมิภาค ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งการเปิดตลาดที่เป็นความก้าวหน้านี้เป็นความร่วมมือระหว่าง6 โอเปอร์เรเตอร์ จาก 6 ประเทศสมาชิกในกลุ่มสิงค์เทล ประกอบไปด้วย สิงค์เทลประเทศสิงคโปร์ , ออพตัสประเทศออสเตรเลีย , เอไอเอส ประเทศไทย , แอร์เทล ประเทศอินเดียและแอฟริกา , โกลบ เทเลคอมประเทศฟิลิปปินส์ และเทลคอมเซล ประเทศอินโดนีเซีย ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความแตกต่างในการให้บริการของประเทศสมาชิก และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
โดยความร่วมมือในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มสิงค์เทล ที่นำเอาศักยภาพและจุดแข็งจากประสบการณ์ ความชำนาญในการให้บริการด้านต่างๆของประเทศสมาชิกมาผนึกกำลังกันเพื่อส่งมอบข้อเสนอสุดพิเศษแบบที่ไม่มีใครเทียบได้ให้แก่ลูกค้าของทั้ง 6 โอเปอร์เรเตอร์จาก 6 ประเทศสมาชิก ซึ่งแต่ละตลาดของบริษัทในกลุ่มสมาชิกต่างมีอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือที่ใช้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเติบโตเป็นอย่างมาก โดยปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบสำคัญก็คือ ความต้องการใช้งานเครื่องสมาร์ทโฟนและApplication จากการใช้งานโมบายดาต้า ดังนั้นกลุ่มสิงค์เทลจึงสนับสนุนทุกโอเปอร์เรเตอร์ในกลุ่มประเทศสมาชิกอย่างเต็มที่ทุกทาง เพื่อทำให้การใช้งานดาต้าเติบโตมากยิ่งขึ้น
การริเริ่มภายใต้ความร่วมมือนี้ รวมไปถึงการทำงานร่วมกันในด้านแผนการค้าปลีก ,การเรียกเก็บค่าบริการโดยตรง, การพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่นในระดับภูมิภาค และการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นที่เลือกสรรเป็นพิเศษ โดยมีรายละเอียดของแต่ละด้าน ดังนี้
- ความร่วมมือด้านการค้าปลีก
ความร่วมมือด้านค้าปลีกจะทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นเรื่องง่าย ด้วยการให้บริการแบบครบวงจร สำหรับความต้องการที่เกี่ยวกับสมาร์ทโฟน ในร้านของซัมซุงและร้านของบริษัทในกลุ่มสมาชิก โดยปกติลูกค้าเหล่านี้จะซื้อโทรศัพท์มือถือจากผู้จำหน่ายอุปกรณ์ และซื้อแพ็กเกจการใช้งานจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ความร่วมมือนี้จะทำให้ทั้ง 6 บริษัทสมาชิกในกลุ่มสิงค์เทล รวมทั้งซัมซุงมีความเข้มแข็งขึ้น เพราะสามารถให้บริการแบบครบวงจรได้ โดยได้เริ่มให้บริการนี้แล้วสำหรับลูกค้าของโกลบเทเลคอมในฟิลิปปินส์ และจะขยายไปสู่ลูกค้าของแอร์เทล ในอินเดีย และ เทลคอมเซลในอินโดนีเซีย ในลำดับต่อไป
- การเรียกเก็บค่าซัมซุงแอพผ่านบิลโทรศัพท์มือถือ
สิงค์เทล (สิงคโปร์) เป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เสนอการเรียกเก็บค่าซื้อซัมซุงแอพผ่านบิลโทรศัพท์มือถือ ทำให้ลูกค้าโพสต์เพดสามารถซื้อแอพและคอนเทนท์จากซัมซุงแอพได้โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต สำหรับระบบพรีเพดก็จะหักค่าซัมซุงแอพจากยอดเงินคงเหลือในระบบทันทีที่ซื้อ จึงทำให้ฐานลูกค้าที่จะเกิดขึ้นในตลาดเกิดใหม่มีทางเลือกสำหรับการจ่ายเงินเพิ่มขึ้น โดยการริเริ่มนี้จะขยายไปสู่ลูกค้าของเอไอเอส ประเทศไทย , โกลบเทเลคอม ในฟิลิปปินส์ และเทลคอมเซล ในอินโดนีเซีย
- การเข้าถึงแอพพลิเคชั่นโดยตรง
ซัมซุง และกลุ่มสิงห์เทล ดิจิตอล ไลฟ์ มีจุดมุ่งหมายที่จะส่งมอบบริการที่น่าตื่นเต้นไปสู่ลูกค้า โดยทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการที่เลือกสรรโดยตรงผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจะถูกปรับให้เป็นไปตามความต้องการและเนื้อหาที่เหมาะสมในแต่ละท้องถิ่น โครงการนี้จะเกิดขึ้นสำหรับลูกค้าของเอไอเอส ประเทศไทย โกลบเทเลคอม ฟิลิปปินส์) และเทลคอมเซล อินโดนีเซีย โดยเริ่มต้นที่ ซัมซุง แกแลคซี่ เอส 5
- การพัฒนาโมบายแอพ
สมาชิกของกลุ่มสิงค์เทล และซัมซุง กำลังร่วมมือกันก่อให้เกิดระบบนิเวศน์ของการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดดังเช่นกรณี โครงการสนับสนุนการพัฒนาโมบายแอพที่จะคัดเลือกกลุ่มเทคสตาร์ทอัพในภูมิภาค ช่วยสนับสนุน-เร่งรัดการพัฒนา และส่งมอบไปยังฐานลูกค้ากว่า 500 ล้านคนในกลุ่มประเทศสมาชิก นักพัฒนาที่ถูกคัดเลือกจากโครงการนี้ จะมีโอกาสในการทำตลาดแอพของพวกเขาผ่านช่องทางการตลาดของแต่ละ Operator ไม่ว่าจะเป็นสิงห์เทล สิงค์โปร์, ออพตัส ออสเตรเลีย, เอไอเอส ประเทศไทย, โกลบ เทเลคอม ฟิลิปปินส์ และเทลคอมเซล อินโดนีเซีย
“ทั้งนี้ ในการร่วมมือกันสนับสนุนนักพัฒนารุ่นใหม่นั้น นอกเหนือจากเอไอเอสจะร่วมมือกับกลุ่มสิงค์เทล ภายใต้ “Innov8 Sparks” แล้ว ในปีนี้ เรายังได้ผนึกกำลังกับซัมซุง ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ในการ ร่วมส่งเสริมและผลักดันธุรกิจ Tech Startup ก้าวสู่ระดับสากล ด้วยบิสิเนสโมเดลที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตทางธุรกิจแบบ Fast Track ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศ รวมถึงการผสมผสานผลงานทั่วภูมิภาค ยกระดับเป็น Regional Community เพื่อเหล่า Startup อย่างแท้จริง”
ล่าสุดได้ผนึกกำลังกัน มอบโอกาสการก้าวสู่โลกธรุกิจระดับสากลให้กับผู้เข้าแข่งขันโครงการ AIS The StartUp 2014 ในปีนี้ โดยทุกผลงานที่ส่งเข้าร่วมแข่งขัน มีโอกาสได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้รับรางวัลพิเศษ ได้แก่ เงินสด 6,000 US$ และเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมอบรมโครงการ Regional Accelerate ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมโอกาสนำเสนอผลงานในวัน DemoDay ต่อหน้านักลงทุนชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก และผู้บริหารจากผู้ให้บริการเครือข่ายหลากหลายภูมิภาคในเครือ และผู้บริหาร Samsung พร้อมรับสิทธิเป็นสมาชิก Innov8 Sparks ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ในการทำงานต่างประเทศ เช่น การพัฒนาธุรกิจแบบข้ามพรมแดน, การสนับสนุน Co-Working Space ในต่างประเทศ เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดกับ Samsung ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดการขายที่ใหญ่ที่สุดในโลก มากกว่า 50% และเครือ SingTel ที่มีฐานลูกค้ามากกว่า 500 ล้านรายใน 23 ตลาดทั่วโลก
นายปรัธนากล่าวสรุปตอนท้ายว่า“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอสและกลุ่มสิงค์เทล รวมถึงซัมซุง ที่ต้องการมอบ Total Solutions ที่สมบูรณ์แบบ อันจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมที่แท้จริงแก่ผู้ใช้บริการมือถือในภูมิภาคและธุรกิจที่เกี่ยวข้องจากนี้ต่อไป”