กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--เวิรฟ
“ตราเสือ” รุกตลาดปูนซีเมนต์กลุ่มงานตกแต่ง เปิดตัว “เสือ เดคอร์” พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “สีซีเมนต์ เสือ เดคอร์ Paint”ชูนวัตกรรมสุดล้ำที่ตอบโจทย์ทุกงานดีไซน์ หวังดันเป้าผลประกอบการรวมปลายปีโต 10%
“ตราเสือ” ผู้ผลิตและผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมปูนซีเมนต์ เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2557 จัดทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์คุณภาพ บุกตลาดครบวงจร ประเดิมด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์กลุ่มงานตกแต่ง ภายใต้ตราสินค้าใหม่ “เสือ เดคอร์” ชูจุดแข็งนวัตกรรมพื้นผิวปูนซีเมนต์ที่มีความเป็นเนื้อแท้ ให้ความคงทนยาวนานสูงสุด และสามารถออกแบบตกแต่งได้อย่างอิสระทั้งงานตกแต่งพื้นและผนัง ตอบโจทย์ทุกจินตนาการงานปูนซีเมนต์ ตลอดจนบริการที่เป็นมืออาชีพ พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ “สีซีเมนต์เสือ เดคอร์ Paint” เจาะกลุ่มเป้าหมายสถาปนิก มัณฑนากร และเจ้าของบ้าน ลุยสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ “เสือ เดคอร์” เต็มสูบ เตรียมเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสความสวยเหนือจินตนาการเป็นครั้งแรกได้ที่งานสถาปนิก 57 หวังดันผลประกอบการรวมปลายปี 2557 เติบโตขึ้น 10% จากปี 2556ที่มียอดขายกว่า 12,400 ล้านบาท
นายธงชัย โสภณ กรรมการผู้จัดการ มาร์เก็ตติ้ง สตรัคเจอรัล บิสซิเนส ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ผู้ผลิตและผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมปูนซีเมนต์ภายใต้แบรนด์ “ตราเสือ” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานที่ต้องการใช้ซีเมนต์เป็นตัวประสาน และงานที่ใช้ซีเมนต์ทำพื้นผิวในขั้นตอนสุดท้าย พร้อมทั้งมีการให้บริการอย่างเป็นมืออาชีพจนได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้บริโภค ในเรื่องความเป็นผู้นำด้านพื้นผิวปูนซีเมนต์ ซึ่งมีความเป็นเนื้อแท้ และให้ความคงทนยาวนานสูงสุด ทำให้ “ตราเสือ” ครองความเป็นผู้นำตลาดปูนซีเมนต์ด้านนวัตกรรมปูนซีเมนต์มาโดยตลอด ซึ่งสำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ “ตราเสือ” จะมุ่งเน้นการสานต่อนโยบายดังกล่าว ควบคู่ไปกับการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการสื่อสารจุดแข็งของแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
นายธงชัย กล่าวต่อไปว่า การจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ “ตราเสือ” ในปีนี้ ประเดิมด้วยการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์กลุ่มงานตกแต่งภายใต้ตราสินค้าใหม่ “เสือ เดคอร์” ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์จากตราเสือที่พัฒนาสูตรสำหรับงานฉาบตกแต่งพื้นและผนังโดยเฉพาะ ให้ผิวสัมผัสของผนังที่เข้าถึงเนื้อแท้ของวัสดุ เข้าถึงความเป็นธรรมชาติ ผู้ออกแบบและผู้ใช้สามารถผสมผสานผิวสัมผัสของปูนซีเมนต์ในรูปแบบต่างๆ (Touch) กับสีสันต่างๆ ของปูนซีเมนต์เพื่อได้สไตล์งานที่ต้องการ หรือใส่วัสดุผสมเพิ่มลงไปในปูนซีเมนต์ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างให้กับงานพื้นหรือผนังได้อีกด้วย โดยจุดแข็งของ “เสือ เดคอร์” คือ ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และสูตรที่พัฒนาขึ้นเฉพาะเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานปูนซีเมนต์ตกแต่งทุกการใช้งานทั้งผนังและพื้น นอกจากนี้ในส่วนการบริการ “เสือ เดคอร์” พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำช่างฝีมือในการทำงานปูนซีเมนต์ตกแต่ง ผ่านช่องทางเอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ โทร 02-101-9222
โดยผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์กลุ่มงานตกแต่ง “เสือ เดคอร์” แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าปูนซีเมนต์สำหรับประยุกต์ใช้งานตกแต่งผนัง จำนวน 7 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย “ปูนซีเมนต์ขาว เสือ เดคอร์ ซีเมนต์ขาวฉาบตกแต่ง” “ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือ เดคอร์ Grey Skim Coat (ฉาบแต่งผิวเทา)” “ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือ เดคอร์ White Skim Coat (ฉาบแต่งผิวขาว)” “ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือ เดคอร์ Color Skim Coat (ฉาบแต่งผิวสี)” “ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือ เดคอร์ White Plaster (ฉาบขาว)” “ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือ เดคอร์ Fine White Plaster (ฉาบละเอียดขาว)” และ “ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เสือ เดคอร์ Color Render (ฉาบสี)” นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดเป็นรายแรกในตลาดคือ “สีซีเมนต์ เสือ เดคอร์ Paint” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการทาสีที่ให้สีสันเข้าถึงความเป็นธรรมชาติของซีเมนต์ และมีจุดเด่นคือ ใช้งานง่าย สามารถใช้งานได้ โดยไม่ต้องใช้น้ำยารองพื้น(Primer) และน้ำยาเคลือบ (Coating) ป้องกันการเกิดคราบขาว สีทนทาน ไม่โป่งพอง พร้อมวางจำหน่ายที่ SCG Experience ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
สำหรับอีก 1 กลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ปูนซีเมนต์กลุ่มงานตกแต่ง “เสือ เดคอร์” คือ ปูนซีเมนต์สำหรับประยุกต์ใช้งานตกแต่งพื้น เช่น งานเทอร์ราซโซ งานพื้นมาร์เบิ้ล เรนเดอร์ งานพื้นขัดมัน ซึ่งมีจำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ “ปูนซีเมนต์ขาวปอร์ตแลนด์ประเภท 1 เสือ เดคอร์ ตกแต่งพื้นและผนัง” “ปูนซีเมนต์ขาวปอร์ตแลนด์ประเภท 1 เสือ เดคอร์ ตกแต่งพื้นและผนัง สูตรแห้งตัวช้า”
ทั้งนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุผสมปูนซีเมนต์ภายใต้แบรนด์ “เสือ” ซึ่งใช้ผสมเพิ่มในปูนซีเมนต์ขาว เสือ เดคอร์ เพื่อเพิ่มลูกเล่นของผิวสัมผัสซีเมนต์ จำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ “วัสดุผสมปูนซีเมนต์ - แคลไซต์ เสือ ตกแต่งผนัง” “วัสดุผสมปูนซีเมนต์ - แคลไซต์ เสือ ตกแต่งพื้น” “วัสดุผสมปูนซีเมนต์ – มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ เสือ ตกแต่งผนัง” “วัสดุผสมปูนซีเมนต์ – มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ เสือ ตกแต่งพื้น”
“เรามองเห็นโอกาสทางการตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์กลุ่มงานตกแต่ง ถึงแม้ขณะนี้ขนาดตลาดจะยังไม่ใหญ่มากเนื่องจากเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) แต่มีแนวโน้มในการเติบโตสูง เนื่องจากกระแสการตกแต่งบ้านในสไตล์ลอฟท์ (Loft) หรือการนำปูนซีเมนต์ไปใช้ตกแต่งบ้านแบบโชว์ผิวในรูปแบบต่างๆ กำลังเป็นที่นิยม และในตลาดมีผู้ผลิตปูนซีเมนต์กลุ่มงานตกแต่งจำนวนไม่มาก เราจึงได้นำผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์ที่มีคุณสมบัติด้านงานตกแต่งมารวมกลุ่มกันภายใต้ชื่อ “เสือ เดคอร์” และปรับแพคเกจจิ้งใหม่ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำในกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นสถาปนิก มัณฑนากร และเจ้าของบ้าน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้สินค้าได้ตรงตามวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้น” นายธงชัย กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ในการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมาย นายธงชัย เปิดเผยว่า ได้เตรียมเดินหน้าเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าและการประยุกต์ใช้งานผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มสถาปนิกและมัณฑนากรเป็นหลัก เช่น งานจัดแสดงสินค้าต่างๆ ประเดิมด้วยงานสถาปนิก 2557 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน –4 พฤษภาคม 2557 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งในปีนี้ “ตราเสือ” นำเสนอแนวคิดในงานตกแต่งพื้นและผนังภายใต้คอนเซ็ปต์ “เติมเต็มทุกจินตนาการงานปูนไปกับเสือ เดคอร์ (Décor Your Imagination)” โดยเมื่อเข้ามาเยี่ยมชมจะเห็นว่าปูนซีเมนต์ตกแต่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในแบบของการโชว์พื้นผิวที่แสดงความเป็นธรรมชาติของซีเมนต์ หรือการเพิ่มลูกเล่นด้วยการผสมวัสดุหรือ สร้างลวดลายด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชมนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงานที่หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งจะมีการสื่อสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ตลอดจนใช้สื่อออนไลน์เต็มรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ผ่านเว็บไซต์ www.tigerbrandth.com และ Facebook Page ตราเสือwww.facebook.com/TigerBrandTH
“เรามั่นใจว่าการจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งในด้าน Positioning และจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะสามารถใช้กลยุทธ์การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยได้ตั้งเป้าหมายผลประกอบการโดยรวมในปี 2557 เติบโตขึ้น 10% จากปี 2556 ที่มียอดขายกว่า 12,400 ล้านบาท” นายธงชัย กล่าวสรุป