กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--มูลนิธิภูมิพลังชุมชนไทย
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อาจจะเนื่องมาจาก การจัดกิจกรรมส่งเสริมประเพณีปี๋ใหม่เมืองที่ยิ่งใหญ่ และเชียงใหม่มีคูน้ำหรือคูเมืองเชียงใหม่ที่สามารถเล่นน้ำสงกรานต์ได้ตลอดระยะทางกว่า 8 ตารางกิโลเมตร จึงทำในแต่ละวันจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้หน่วยงานจัดงานหลัก อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้ก็ต่างมีแนวนโยบายร่วมกันในการจัดงานสงกรานต์ที่ปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวโดยการลดการใช้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีมาตรการการขอความร่วมมือกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ที่จับจองสถานที่ในการจำหน่ายสินค้า การขอความร่วมมือเวทีกิจกรรมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มาจัดกิจกรรมในพื้นที่รอบคูเมืองเชียงใหม่ ซึ่งการขอความร่วมมือดังกล่าวก็ได้รับความร่วมมือในระดับดี ซึ่งมีเพียงร้านแผงลอยบางจุดเท่านั้นที่มีการแอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่
พื้นที่ดังกล่าวมีนโยบายการห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พื้นที่รอบคูเมืองเชียงใหม่ก็เป็นพื้นที่สวนสาธารณะ อีกทั้งตั้งแต่ปีที่ผ่านมาก็มีกฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถและบนทาง แต่ลักษณะความร่วมมือของกลุ่มนักท่องเที่ยวและวัยรุ่นที่มาท่องเที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่กลับแตกต่างกัน จากการเก็บข้อมูลของกลุ่มเครือข่ายเยาวชนป้องกันปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ในพื้นที่รอบคูเมืองมีการดื่มแอลกอฮอล์อย่างโจ่งครึ่ม มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนกระบะรถเป็นจำนวนมาก และมีการตั้งวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอ์ในพื้นที่สวนสาธารณะ
นายพงษ์สิทธิ์ ศรีธิวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายป้องกันปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติดจังหวัดเขียงใหม่ กล่าวว่า จากข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พบว่า ยอดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตราย มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 322 ราย บาดเจ็บ 3,225 ราย และยังพบว่าจังหวัดเชียงใหม่มียอดอุบัติเหตุสะสมทั้งสิ้น 116 ครั้ง บาดเจ็บสะสม 144 คน ทั้งสองด้านเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
และมีผู้เสียชีวิตสะสม 9 ราย การตายเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สาเหตุหลักมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการขับรถเร็วเกินกำหนดซึ่งทางเครือข่ายฯมองภาพรวมว่าในปีนี้มีหน่วยงานที่หลากหลายออกมาขับเคลื่อนและพยายามลดอุบัติเหตุและความสูญเสียจากเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ และมีกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาควบคุมอีกด้วย แต่ความร่วมมือของผู้มาท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวยังให้ความร่วมมือน้อย เพราะมองภาพของความสนุกสนานเป็นประเด็นหลัก จึงมองข้ามความปลอดภัยของตนเองและคนอื่น หรืออีกภาษาคือ ลืมความรับผิดชอบร่วม เพราะการดื่มนั้นอาจจะส่งผลต่อผู้เดินทางมาด้วยกับเรา กรณีถ้าเป็นคนขับรถและมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และชนผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้ร่วมทาง ก็อาจจะเกิดความสูญเสียและอุบัติเหตุขึ้นได้ ซึ่งอาจจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันรการศึกษาต้องร่วมกันรณรงค์การคิดรับผิดชอบต่อคนไทยด้วยกันใน่ชวงเทศกาลสงกรานต์ และถ้าเป็นไปได้ขอเรียกร้องให้หน่วยงานสรรพสามิตซึ่งมีหน้าที่ในการออกใบอนุญาตในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้มีการปรับมาตรากฎหมายการลงโทษผู้ที่ไม่มีใบอนุญาติให้หนักกว่าเดิม และหน่วยงานสาธารณสุขควรมีแนวทางหรือกฎหมายห้ามมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียทั้งหมด