กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม
นอกจากฉากมหาศึกยุทธหัตถี ที่จะปรากฎสู่สายตาผู้ชมอย่างเต็มรูปแบบหลังจากเฝ้ารอคอย กันมาใน “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี” ท่านมุ้ย มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ยังคงให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดของเรื่องราว และตัวละครที่ดำเนินสืบเนื่องต่อไป ตามชะตากรรมของทุกตัวละครสำคัญในภาพยนตร์ พร้อมกับทรงให้น้ำหนักให้เห็นแง่มุมของอารมณ์ และความรู้สึก ตลอดจนความผูกผันที่แต่ละตัวละครมีต่อกัน อันเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญนำไปสู่เหตุการณ์ที่เป็นจุดพลิกผัน และไคล์แม็กซ์ของเรื่องราวที่ผู้ชมจะได้เต็มอิ่มกับความเป็นภาพยนตร์ที่มีความครบทุกรสชาติ และสมบูรณ์ที่สุด
และอีกหนึ่งฉากสำคัญของภาพยนตร์ ที่ท่านมุ้ยทรงตั้งใจถ่ายทอดให้ผู้ชมได้รับรู้ และสัมผัสถึงความรักความผูกผันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีต่อพระสหายที่เติบโต และร่วมศึกสงครามเคียงข้างกันมา ขณะเดียวกันก็จะได้เห็นความรักความผูกผันของทหารเอกคู่ใจ ที่เทิดทูนพระนเรศวรเหนือสิ่งอื่นใด และพร้อมยอมที่จะเสียสละชีวิตเพื่อพระองค์ โดยมี4นักแสดงหลักของภาพยนตร์ อย่าง ผู้พันเบิร์ด วันชนะ สวัสดี, แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ (เตชะณรงค์), ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม และทราย เจริญปุระเข้าฉากร่วมกัน และแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งฉากที่ไม่เพียงทำให้ผู้พันเบิร์ดที่รับบทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจุกอกและยกให้เป็นอีกหนึ่งฉากประทับใจแต่นักแสดงทุกคนที่เข้าฉากร่วมกันต่างรู้สึกตื้นตันไปกับเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฉากนี้และต่างร่วมกันถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างซาบซึ้งและกินใจเลยทีเดียว
“กับอีกฉากๆ หนึ่งนะครับ เป็นฉากที่ผมจะพูดถึงนักแสดงท่านหนึ่งที่ผมรู้สึกว่ามีฝีไม้ลายมือในการเล่นถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยเลยในปัจจุบัน หลายคนอาจคิดไม่ถึงเขา เพราะเขาไม่ค่อยได้เล่นหนังเยอะมาก คนๆ นี้แหละถ้าในใจผมนะที่ 1 ของประเทศไทยเลย เชื่อผม การันตีเลยคุณนพชัยที่เล่นเป็นไอ้บุญทิ้งนะครับ ฉากๆ นี้เราจะได้เห็นอีกมุมๆ หนึ่งของพระนเรศวรที่เป็นคนธรรมดา เป็นฉากที่ท่านตั้งใจถ่ายทอดความรักของเพื่อนสนิทที่เคยเป็นเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก เคยร่วมเป็นร่วมตายเคยเสียสละชีวิตของมันเพื่อเรา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราแลกกับมันได้ คืออะไรรู้ไหมครับ คือชีวิตของเรา เราให้กันด้วยชีวิต ให้กันด้วยจิตใจ ภายใต้ความเป็นเพื่อนและความเป็นนักรบ ผมเชื่อว่านักรบมีความเป็นสุภาพบุรุษ พอเราแลกกันด้วยชีวิตแล้ว ฉากนี้ภาพยนตร์พยายามที่จะแสดงออกให้คนดูได้เห็นถึงความเป็นคนธรรมดาของพระนเรศวร ความเป็นตัวตนของคนธรรมดาคนหนึ่งเพื่อไปหาบุญทิ้ง แต่ความจงรักภักดีที่บุญทิ้งมีต่อพระมหากษัตริย์ไม่แปรเปลี่ยน ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน พระนเรศวรเป็นคนธรรมดามาหาบุญทิ้ง แต่บุญทิ้งไม่แสดงความเป็นเพื่อนเลยนะ บุญทิ้งคือสหายคือเพื่อนสนิท แต่ความจงรักภักดีที่บุญทิ้งมีให้ต่อพระนเรศวร คือความเป็นข้ารองบาทที่แสดงออกแบบบ่าวรับใช้ที่พร้อมจะพลีกาย แล้วในขณะเดียวเราก็จะได้เห็นมุมมองของเลอขิ่นซึ่งเป็นคนรักของบุญทิ้ง ทั้ง 2 คนคุยกันเลอขิ่นบอกว่าสมแล้วที่เลอขิ่นกับพระราชมนูได้ถวายชีวิตให้กับพระนเรศวร ซึ่งจริงๆ แล้วเลอขิ่นไม่ได้เป็นคนไทยด้วยซ้ำ แต่ก็ซาบซึ้งและเห็นในความรักที่พระนเรศวรมีต่อประชาชนของท่าน เห็นความรักความเทิดทูนของบุญทิ้งที่มีต่อพระองค์ เราก็จะได้เห็นเลอขิ่นร่วมรบเคียงข้างกับบุญทิ้งในภาคนี้อีกเช่นกัน”
และเชื่อว่าเมื่อผสมผสานกับสีหน้าแววตาน้ำเสียงของทั้ง 4 นักแสดงพร้อมไดอาล็อคสำคัญๆ ในฉากนี้มั่นใจว่าคนไทยรักชาติทุกคนต้องเกิดอาการจุกอกอย่างแน่นอนเตรียมพบกับความเข้มข้นของตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ยุทธหัตถี 29 พ.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์