กรมป่าไม้ลั่นปราบเข้มกระบวนการตัดไม้

ข่าวทั่วไป Wednesday April 23, 2014 09:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--เอเอสวี อินเตอร์ กรุ๊ป ขบวนการลักลอบทำไม้ ในพื้นที่ป่าสาละวิน มีสถานการณ์รุนแรงตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2539 – พ.ศ. 2542 ซึ่งขณะนั้นก็ได้มีการร้องขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพบก ให้เข้ามาร่วมดำเนินการ ต่อมาเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย กองทัพบกจึงถอนกำลังออกจากพื้นที่ (ประมาณ พ.ศ. 2547) ภายหลังจากนั้นราว ๆ 1 – 2 ปี ก็เริ่มปรากฏการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสาละวินอีกเป็นระยะ ๆ เบื้องต้นเริ่มตรวจพบว่า มีการลักลอบตัดไม้สักในพื้นที่สวนป่าแม่สะมาด(อยู่ติดลำน้ำสาละวิน) ซึ่งเป็นสวนป่าของทางราชการ รวมทั้งในพื้นที่ป่า ที่มีต้นไม้สักขึ้นอยู่ติดกับลำน้ำสาละวิน โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2552 เริ่มมีการลักลอบตัดไม้ในป่าธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน มีเนื้อที่ 1822.4 ตารางกิโลเมตร หรือ จานวน 1,139,000 ไร่ ส่วนหนึ่งได้ประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ ปัจจุบันคงเหลือเนื้อที่ ประมาณ 237.456 ตารางกิโลเมตร (148,410 ไร่) โดยมีวนอุทยาน จานวน 1 แห่ง เนื้อที่ ประมาณ 23 ตารางกิโลเมตร (14,375 ไร่) และเป็นสวนป่าของรัฐ แปลงปลูกป่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 อีกประมาณ 23.97 ตารางกิโลเมตร (14,981.25 ไร่) จึงยังคงเป็นพื้นที่ป่าสงวน ฯ ที่กรมป่าไม้ รับผิดชอบอยู่จริง ประมาณ 190.486 ตารางกิโลเมตร (119,053.75 ไร่) มีหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.12 (ห้วยสิงห์) ดูแลรับผิดชอบ ทั้งนี้ หน่วย ฯ มส.12 (ห้วยสิงห์) มีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ รวม 11 นาย แยกเป็น ข้าราชการ 1 นาย ลูกจ้างประจำ 3 นาย พนักงานราชการ จำนวน 4 นาย พนักงานจ้างแหมา(tor) จานวน 3 นาย รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ จานวน 1 คัน ปืนลูกซอง 2 กระบอก ไม่มีเรือยนต์ใช้ตรวจการทางน้า จึงทำให้ไม่อาจปฏิบัติงาน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน ได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง นายเล็ก วงษา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน เผยว่า ได้ประสานงานและสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ จากหน่วยป้องกันรักษาป่าในสังกัด และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวินล่าสุด เนื่องจากได้รับข้อมูลว่า มีขบวนการการลักลอบตัดไม้สัก แล้วชักลากลงสู่ลาน้าสาละวิน ผูกเป็นแพ ปล่อยให้ไหลลงตามลาน้าสาละวิน เพื่อส่งออกไปยังประเทศสหภาพเมียนม่าร์(พม่า) เจ้าหน้าที่ สามารถตรวจยึดไม้สักท่อน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสาละวิน ท้องที่บ้านแม่สามแลบ ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ไม้สักท่อนทั้งหมดรวม 103 ท่อน ปริมาตร 45.6 ม3 ไม่พบตัวผู้กระทำผิด นำเรื่องกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสบเมยจำนวน 6 คดี สถานการณ์การลักลอบตัดไม้ บริเวณห้วยแม่ปัวที่ตรวจพบในปัจจุบัน เริ่มปรากฏสถานการณ์รุนแรงขึ้น ภายหลังจากที่มีการปรับแผนปฏิบัติงาน ของฝ่ายความมั่นคง(หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36) ซึ่งได้ถอนกำลังออกจากฐานปฏิบัติการย่อย บริเวณห้วยแม่ปัวเมื่อประมาณ 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา จึงทำให้พื้นที่ในบริเวณดังกล่าว ไม่มีหน่วยงานของทางราชการอยู่ประจำ ซึ่งก่อนหน้านั้น มีฐานปฏิบัติการย่อย ของหน่วยเฉพาะกิจ ฯ ที่ 36 เพียงหน่วยงานเดียวที่อยู่ประจำในพื้นที่ เพราะเป็นแนวตะเข็บชายแดน และโดยที่บริเวณสบห้วยแม่ปัวมีเส้นทางรถยนต์เข้าถึง สามารถเชื่อมโยงไปในพื้นที่ป่าสาละวินทั้งหมด ประกอบกับเป็นสถานที่ปลอดคน สบห้วยแม่ปัวจึงเป็นจุดนำไม้ลงสู่ลาน้ำสาละวิน ทั้งนี้ ได้มีการตัดไม้ตามป่าข้างทางเป็นจุด ๆ รวมถึงในห้วยแยกต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง ตั้งแต่หมู่บ้านแม่สามแลบไปจนถึงหมู่บ้านกอมูเดอ และหมู่บ้านสิหว่าเดอ แล้วทำการลำเลียงโดยรถยนต์ ไปยังสบห้วยแม่ปัว และยังพบว่ามีการลักลอบทำไม้ ในลักษณะดังกล่าวอีกหลายหมู่บ้าน อาทิเช่น บ้านห้วยกระต่าย บ้านแม่แคะ และบ้านเคอะบอ สาเหตุที่มีการลักลอบทาไม้ในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากมีต้นไม้สักขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น สภาพภูมิประเทศและสภาพแวดล้อม เอื้อต่อการลักลอบทำไม้ อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า มอบหมายให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน จัดทำแผนปฏิบัติการ ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทาลายทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน ท้องที่ ตำบลแม่สามแลบ และตำบลสบเมย อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ จัดตั้งฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจ ในพื้นที่หมู่บ้านแม่สามแลบ เพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติงานชั่วคราว ในการตรวจตรา ลาดตระเวนและเฝ้าระวังการลักลอบตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสาละวิน โดยมอบหมายให้ หน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย และอำเภอแม่ลาน้อย จานวน 7 หน่วย ฯ จัดเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกัน เข้าปฏิบัติงานประจาฐานปฏิบัติการ ฯ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 เป็นระยะแรก และจะประเมินสถานการณ์ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติอีกครั้งหนึ่ง โดยได้แจ้งประสานงานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการเบื้องต้นแล้ว.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ