กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ เอคิว เอสเตท เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการปรับเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ บริษัทฯ สามารถสร้างอัตราการเติบโตของยอดขายได้กว่า 350 % จากโครงการคอนโดมิเนียม ทั้ง เดอะ คริส รัชดา 17 และ เอสเตส รัตนาธิเบศร์ ซึ่งนอกจากจะกำหนดกลยุทธ์การขายโครงการที่พัฒนาอยู่เดิมแล้ว ยังได้มีการพัฒนาโครงการใหม่ เพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งแนวสูงและแนวราบ โดยแต่ละโครงการล้วนแต่มีกระแสตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคอย่างดี ด้านความคืบหน้าโครงการที่อยู่ระหว่าง การพัฒนาของบริษัทฯ หลังจากการปรับนโยบายการพัฒนาของทีมบริหารใหม่ ทำให้แนวทางการพัฒนา โครงการเก่ามีทิศทางที่แน่นอน ยอดขายโครงการที่คงค้างอยู่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกันนี้ การก่อสร้างโครงการ เช่น คอนโดมิเนียม เดอะ คริส รัชดา 17 ก็มีความคืบหน้าในด้านการก่อสร้างอย่างมาก คาดว่าจะสามารถโอนห้องชุดเพื่อรับรู้รายได้ทันตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ ในปี 2556 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้รวม 929.34 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวมาจากโครงการ ที่พัฒนาอยู่เดิมแล้ว ประกอบด้วย โครงการกฤษดา บางนา-เทพารักษ์, โครงการกฤษดา ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี รวม 46.72 ล้านบาท และโครงการที่พัฒนาใหม่ ประกอบด้วย โครงการกฤษดา ลากูน, กฤษดา แกรนด์พาร์ค กฤษดาเพรสทีจ เลค แอนด์ พาร์ค และ คอนโดเดอะคริส รัชดา 17 รวม 781.49 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจโรงแรมและอื่นๆ รวม 101.13 ล้านบาท
“ในปี 2557 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง โดยโครงการแนวสูง บริษัทฯ จะเน้นพัฒนาในย่านที่เกาะติดแนวรถไฟฟ้าทั้งรถไฟฟ้ามหานครและรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนโครงการ แนวราบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ บริษัทฯ จะเน้นการพัฒนาในบริเวณรังสิต-พหลโยธิน ซึ่งเป็นที่ดินรอการพัฒนาที่มีอยู่แล้ว และยังมีแผนที่จะหาซื้อที่ดินใหม่ในทำเลที่มีถนนตัดใหม่ด้วย” นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กล่าว “สำหรับยอดขายในปี 2557 เราตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายให้ได้ประมาณ 2,600 ล้านบาทจากปี 2556 สามารถสร้างยอดขายได้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราเติบโตมากถึง 30% เนื่องจากการปรับโครงสร้างการบริหารองค์กรใหม่และทีมงานบริหารใหม่ ทำให้เรามั่นใจว่าจะสร้าง ยอดขายตามเป้าที่วางไว้ได้”
ด้านทิศทางแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2557 นั้น นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ กล่าวแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้น่าจะมีแนวโน้มการเติบโต ในอัตราที่น้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่แน่นอนของภาวะการเมืองภายในประเทศ แต่คาดว่า จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งทำให้ภาพรวมทั้งปีน่าจะเป็นทิศทางที่ทรงตัว และไม่เติบโตมากนัก”
สำหรับโครงการใหม่ของบริษัทฯ นั้น ในปี 2557 บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบและรายละเอียด โครงการทั้งโครงการที่สร้างบนที่ดินเดิมที่มีอยู่ และมีแผนในการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมสำหรับโครงการ คอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2557 ซึ่งจะทำให้ได้ยอดขายตามแผนที่ตั้งเป้าไว้ได้