กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี
อธิบดีกรมควบคุมโรคให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานเปิดประชุมสัมมนาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขภาคอีสาน สั่งจับตาไข้หวัดใหญ่ H1N1 ทั้งประเทศป่วยเกือบทะลุ 3 หมื่นคน ตายแล้ว 45 ราย ส่วนอีสานใต้ตาย 3 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคมาก่อน รวมทั้งมีภาวะเสี่ยงเป็นหญิงตั้งครรภ์และอ้วนมาก
วันที่ 23 เม.ย. 57 นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดการสัมมนาวิชาการเครือข่ายสำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่โรงแรมลายทอง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 5 , 6 และ 7 เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งในครั้งนี้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานีเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์และปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ให้นักวิชาการนำเสนอผลงานการวิจัยและสิ่งค้นคว้าใหม่ๆในงานเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรค และเป็นการพัฒนานักวิชาการให้มีขวัญกำลังใจในการพัฒนาผลงานวิชาการให้ก้าว สู่การนำเสนอผลงานในระดับประเทศ และระดับนานาชาติต่อไป โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้ ได้กำหนดประเด็นหลักของการสัมมนา ว่า การป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพบทบาทในประชาคมอาเซียน รูปแบบการสัมมนา ประกอบด้วย การบรรยาย การอภิปรายด้านวิชาการและนวัตกรรมการป้องกันควบคุมโรค ทั้งในเขตภาคอีสานและระหว่างประเทศ ที่มีพรหมแดนติดต่อกับประเทศไทย ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สำนักงานป้องกันควบคุมโรค ที่ 5 , 6 และ 7
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ โรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 ซึ่งเป็นชนิดสายพันธุ์เดิมที่เคยระบาดเมื่อปี 2553 และได้กลับมาระบาดใหม่ โดยตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม ถึง 19 เมษายนพบผู้ป่วยแล้ว 29,821 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 46.54 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 45 ราย ใน 21 จังหวัด กระจายอยู่ทั่วทุกภาค ผู้เสียชีวิตทุกรายตรวจพบสารพันธุกรรม InfluenzaAH1N1 อัตราป่วยตายสูงสุดอยู่ในกลุ่มคนอายุ 55-64 ปี รองลงมา 45-54 ปี โดยมีภาวะเสี่ยงเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รองลงมาเป็นหญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็กอายุมากกว่า 2 ปี
สำหรับในเขตรับผิดชอบของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 อุบลราชธานี พบผู้ป่วย 1,265 ราย เสียชีวิต 3 ราย เป็นเพศหญิงทั้งหมด อายุระหว่าง 25-31 ปี เป็นชาว จ.ยโสธร 2 ราย และศรีสะเกษ 1 ราย ส่วนภาวะเสี่ยงเกิดจากอ้วนมาก 1 ราย อ้วนมากและหอบหืด 1 ราย หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย และทุกรายไม่มีประวัติรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงขอเตือนประชาชนให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะเป็นทางป้องกันโรคที่ดีที่สุด ด้วยการทำร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาด หรือเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
สิ่งที่ควรระวังคือ หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด และสัมผัสผู้ป่วยที่เป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ถ้ารู้สึกมีอาการเป็นหวัด ไอ ให้ใส่หน้ากากอนามัย และให้หยุดงาน หรือหยุดไปโรงเรียน เพื่อรักษาตัวให้หาย ป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น และต้องรีบพบแพทย์ตรวจอาการโดยเร็ว เพราะหากพบเป็นโรคจะได้รับวัคซีนควบคุมโรคได้ทันท่วงทีจะได้ไม่เสียชีวิต เนื่องจากโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 แม้เชื้อจะรุนแรง แต่ทุกโรงพยาบาลของรัฐมีวัคซีนใช้รักษา หากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 1422.