กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เป็น ‘A-’ จาก ‘BBB+’ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) เป็น ‘AAA(tha)’ จาก ‘AA+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
การเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ MTL สะท้อนถึงระดับเงินกองทุนที่มั่นคงเหมาะสมกับธุรกิจของบริษัท สถานะในอุตสาหกรรมของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และผลการดำเนินการทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้น
ระดับเงินกองทุนของ MTL มีความแข็งแกร่งในทุกๆด้าน โดยบริษัทมีระดับเงินกองทุนตามกฎของประเทศไทยในการกำกับความเสี่ยงด้านเงินกองทุน (Risk-based capital – RBC) อยู่ที่ 460% ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2556 สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 377% ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2555 และสูงกว่าระดับขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่ 140% บริษัทไม่มีเงินกู้ยืม และไม่มีแผนการที่จะใช้เงินกู้ยืมเป็นแหล่งเงินทุน ฟิทช์คาดว่าสถานะเงินกองทุนของบริษัทจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากความสามารถในการทำกำไรที่ดี และการบริหารจัดการเงินกองทุนที่ระมัดระวัง
ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 4.6% ต่อปี ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2556 จาก 4.1% ต่อปี ณ สิ้นปี 2555 ส่วนใหญ่เนื่องมาจากนโยบายการกำหนดราคาที่เหมาะสมของบริษัท อัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์ของบริษัททรงตัวอยู่ในระดับที่สูงกว่า 4% ต่อปีมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2552
MTL สามารถรักษาอันดับในอุตสาหกรรมโดยบริษัทยังคงเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย ในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวม และสามารถขยับเข้าใกล้กับผู้นำในอุตสาหกรรมมากขึ้น เบี้ยประกันภัยรับรวมของ MTL เพิ่มขึ้นถึง 23% ในปี 2556 สูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 13% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ทั้งทางช่องทางเครือข่ายสาขาของธนาคาร หรือ bancassurance และตัวแทนประกัน ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทจึงเพิ่มขึ้นเป็น 13.6% จาก 12.5% ในปี 2555 บริษัทยังได้เป็นผู้นำในส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 18.6%
บริษัทได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทซึ่งคือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK (มีอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (IDR) ที่ ‘BBB+’/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และ Ageas Insurance International N.V. (Ageas) (มีอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ (IDR) ที่ ‘A-’/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) KBANK ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย เป็นตัวแทนขายประกันของ MTL ผ่านเครือข่ายสาขาธนาคารแต่เพียงผู้เดียว ในขณะที่ Ageas ช่วยสนับสนุนความเชี่ยวชาญทางเทคนิคที่จำเป็น
พอร์ทเงินลงทุนของ MTL นั้นส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยตราสารหนี้และเงินฝากซึ่งมีสัดส่วนเป็น 85% ของเงินลงทุนรวม การลงทุนในตราสารทุนยังคงจำกัดสัดส่วนใว้ที่ระดับต่ำ ประมาณ 10% ของเงินลงทุนรวม ฟิทช์คาดว่า MTL จะยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนในระดับใกล้เคียงกับปัจจุบัน เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่าบริษัทไม่ได้อยู่ใต้แรงกดดันที่จะต้องเพิ่มความเสี่ยงเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน
MTL มีความเสี่ยงทางด้านส่วนต่างระหว่างระยะเวลาครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สิน (asset/liability mismatch) เช่นเดียวกับบริษัทประกันชีวิตอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากสินทรัพย์ลงทุนระยะยาวมีปริมาณจำกัด ในขณะที่หนี้สินส่วนใหญ่ของบริษัทประกันชีวิตเป็นหนี้สินระยะยาว ฟิทช์เชื่อว่าสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตระยะสั้น และการผ่อนคลายกฎระเบียบในด้านการลงทุน จะช่วยให้บริษัทสามารถค่อยๆลดส่วนต่างระยะเวลาครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สินได้
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่มีผลในทางลบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน ทั้งสากลและในประเทศ ได้แก่ การที่สถานะเงินกองทุนของบริษัทปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎ RBC ลดลงต่ำกว่า 250% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง การปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญของสถานะในอุตสาหกรรมของบริษัท หรือความสามารถในการทำกำไร ก็อาจมีผลในทางลบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัท
การปรับขึ้นของอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินไม่น่าจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันใกล้ เนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ MTL อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาวของประเทศไทย (Long-Term Local Currency IDR) ที่ ‘A-’/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศปัจจุบันเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว