Bangkok--30 Apr--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบ หรือ Commercial Low Rise และที่อยู่อาศัย ชูแนวคิด สร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ บุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทุ่มงบกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เปิดที่อยู่อาศัยแบบผสมผสานครบวงจร 3 โครงการใหม่ ล่าสุด เปิดโครงการไมอามี่ บางปู ภายใต้แนวคิดเมืองพักตากอากาศ หน้าติดทะเลหลังติดแนวรถไฟฟ้า BTS แห่งแรกในไทย มูลค่าโครงการ 5.5 พันล้านบาท หวังเจาะกำลังซื้อที่อยู่อาศัยทำเลปริมณฑล รองรับการขยายตัวของเขตเมือง
นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ J.S.P. ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบ หรือ Commercial Low Rise และที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางตำแหน่งทางการตลาดเป็น Thailand's Creative Property Developer หรือ การสร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย เป็นแนวทางทำตลาดเพื่อรุกธุรกิจในปีนี้ โดยทุกโครงการที่พัฒนาขึ้นนั้น จะมีบุคลิกของโครงการที่ชัดเจน มีความโดดเด่นและสามารถตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะให้ความสำคัญด้านการออกแบบโครงการ ทำเลที่ตั้งและคุณภาพงานก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ตลอดจนการนำระบบสารสนเทศ (ERP) มาใช้ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างสะดวก แม่นยำและรวดเร็ว
“เรามีความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ความชำนาญและประสบการณ์ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 20 ปี มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์แนวราบและที่อยู่อาศัย ที่พัฒนาสำเร็จมาแล้วมากกว่า 30 โครงการ ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ โฮมออฟฟิศ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม ในทำเลกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยจุดขายด้านการออกแบบโครงการที่โดดเด่น บนทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ ใกล้ระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยทุกโครงการจะเน้นสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อจุดขายสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้า และนำความสำเร็จให้แต่ละโครงการได้” นายทนงศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนปีนี้ ได้ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบผสมผสานครบวงจร โดยเปิดตัว 3 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ได้แก่ ไมอามี่ บางปู ทำเลย่านสมุทรปราการ โครงการทิวลิป สแควร์ อ้อมน้อย ย่านพุทธมณฑล สาย 4 และโครงการสำเพ็ง 2 บนทำเลถนนกัลปพฤกษ์ตัดกาญจนาภิเษก
ด้านนายรังสรรค์ หวังไพฑูรย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ J.S.P. กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดขายโครงการ ไมอามี่ บางปู ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ โดยจัดงาน ไมอามี่เดย์ “ไมอามี่ บางปู จัดเต็มความสุข” ภายในงาน ได้จัดให้มีกิจกรรมการแสดง ฟรีคอนเสิร์ต ศิลปิน นักร้องยอดฮิต เช่น หญิงลี ศรีจุมพล, ต่าย อรทัย, กระแต อาร์สยาม ฯลฯ เพื่อส่งเสริมงานขายเปิดตัวโครงการ โดยโครงการดังกล่าวพัฒนาภายใต้แนวคิด เมืองไมอามี่ เมืองพักตากอากาศติดทะเล ในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ชูจุดขายโครงการทำเลหน้าติดทะเลหลังติดแนวรถไฟฟ้า BTS แห่งแรกในไทย บนเนื้อที่กว่า 120 ไร่ ริมถนนสุขุมวิทสายเก่า ซึ่งอยู่แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ- บางปู) ห่างจาก สถานีสวางคนิวาศ (สถานี E24) เพียง 100 เมตร มูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 โซนหลัก ประกอบด้วย โซนที่พักอาศัย โซนไมอามี่ การ์เด้น วิลล่า คอนโด พื้นที่ 50 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมความสูง 5 ชั้น 60 อาคาร จำนวน 3,840 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.49 แสนบาท และโซนไมอามี่ บีชฟรอนท์ วิลล่า คอนโด ติดชายทะเล พื้นที่ 26 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม 5 ชั้น 30 อาคาร จำนวน 1,170 ยูนิต แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34-41.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.52 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมี ไมอามี่ เบย์ไซด์ โซนไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์และพลาซ่า บนเนื้อที่ 35 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท โดยออกแบบให้เป็น 2 สไตล์ 2 บรรยากาศ ให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งทันสมัย สไตล์เบย์ไซด์ มาร์เก็ตเพลส เมืองไมอามี่ โดยมีพื้นที่เช่าร้านค้า ร้านอาหาร ภัตตาคารมากกว่า 500 ร้านค้า โดยทั้ง 3 โซนคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างประมาณปลายปี 2557 แล้วเสร็จและเปิดดำเนินการปลายปี 2558
“ไมอามี่ บางปู ถือเป็นโครงการหัวหอกในปีนี้ ที่สะท้อนแนวคิด สร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ที่ชัดเจน มาเป็นจุดขายให้แก่ตัวโครงการ ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการด้านหน้าติดทะเลหลังติดแนวรถไฟฟ้า BTS แห่งแรกในไทย ที่ทำให้โครงการมีจุดขายที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับกำลังซื้อที่อยู่อาศัยโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่มีการขยายตัวของประชากรตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย BTS ได้เป็นอย่างดี” นายรังสรรค์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้พัฒนาโครงการทิวลิปสแควร์ ในทำเลย่านอ้อมน้อย โดยเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบบผสมผสานครบวงจร บนพื้นที่ 32 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 7 อาคาร จำนวน 1,030 ยูนิต ประกอบด้วย โซนทิวลิป ไลท์ จำนวน 5 อาคาร ขนาด 28 ตร.ม. และ 43 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.05 ล้านบาท โซนแกรนด์ ทิวลิป จำนวน 2 อาคาร ราคาเริ่มต้น 1.25 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโซนบิซทาวน์ อาคารพาณิชย์ และไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์ อีกด้วย ซึ่งให้โครงการดังกล่าวมีความครบวงจรมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ โครงการสำเพ็ง 2 มูลค่าโครงการ 7,500 ล้านบาท ซึ่งพัฒนาเป็นอาณาจักรการค้าครบวงจร บนถนนกัลปพฤกษ์ตัดกาญจนาภิเษก โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในเฟส 3 และเฟส 4 ที่มีโซนตลาดน้ำ 5 ภาค เพื่อเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาใช้บริการ หลังเตรียมเปิดให้ผู้ค้าขายเปิดร้านจำหน่ายสินค้าได้ประมาณ ไตรมาส 3 ปีนี้