กรุงเทพ--17 มี.ค.--พรีม่าโกลด์
พรีม่าโกลด์ ปรับกลยุทธ์ไตรมาสแรกปี 41 ชูคุณภาพสินค้าเป็นหัวหอก เดินเครื่องขยาย แฟรนไชส์ตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ได้แก่ สุราษฏร์ธานี จันทบุรี พิษณุโลก ชลบุรี ขอนแก่น ระยอง และตรัง หวังเพิ่มช่องทางจำหน่ายเพื่อดึงยอดขายในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
นายสว่าง นฤมนัสกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พรีม่าโกลด์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องประดับทองคำ 24 เค คุณภาพภายใต้เครื่องหมายการค้า "พรีม่าโกลด์" และเครื่องประดับเพชร "พรีม่าไดมอนด์" เปิดเผยว่า "พรีม่าโกลด์มีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันหลายด้าน เช่น พยายามนำเสนอสินค้าคอลเล็คชั่นใหม่อยู่เสมอให้ทันกับความนิยม ปรับขนาดสินค้าให้เล็กลงแต่คงไว้ซึ่งเอกลักณ์ คุณภาพและราคาที่คุ้มค่า รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการผลิต ตัวอย่างหนึ่งของการปรับตัวที่เห็นได้ชัด ก็คือ การวางตลาด Eighteen K By Prima Gold เครื่องประดับทองคำแท้คอลเล็คชั่นล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม๋ในขณะนี้ เพราะมีรูปแบบทันสมัย สีสันสวยงาม และมีขนาดกระทัดรัด ทำจากทองคำ 18 K ทองคำขาวประดับด้วยพลอยสีคุณภาพตามราศีเกิด มีการลงยา (Enamel) ลงบนตัวสินค้าเป็นสีสรรต่าง ๆ เพื่อบ่งบอกเอกลักษณ์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงการใช้เทคนิคในการฉลุหรือแกะสลักความหมายต่างๆ (Meaning) ลงบนตัวเรือนทองคำ 18 K นอกจากนี้ยังมีราคาประหยัดอีกด้วย โดยวางจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 2,500 บาทขึ้นไป"
นายสว่างกล่าวต่อไปว่า "แนวทางการลงทุนของบริษัทฯในปีนี้จะเน้นการขยายแฟรนไชส์ พรีม่าโกลด์ให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ท่านผู้สนใจที่จะเป็น เจ้าของธุรกิจเนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นตลาดที่ยังมีกำลังซื้อเป็นที่น่าพอใจ รวมทั้งภาวะตลาดทองคำในประเทศยังคงมีศักยภาพสูง เห็นได้จากการที่ประเทศไทยต้องนำเข้าทองคำในแต่ละปีกว่า 100 ตัน โดยจังหวัดที่เป็นเป้าหมายของการขยายแฟรนไชส์พรีม่าโกลด์ในปีนี้ ประกอบด้วยภาคเหนือ ได้แก่ พิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น ภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี ภาคใต้ ได้แก่ สุราษฏร์ธานี และ ตรัง"
ผู้สนใจลงทุนรับสิทธิ์แฟรนไชส์จากพรีม่าโกลด์ควรมีคุณสมบัติดังนี้ คือ เป็นนักธุรกิจในจังหวัดนั้น ๆ มีสถานภาพทางการเงินดี และยินดีปฏิบัติตามนโยบายทางด้านการขายและการตลาดของบริษัทฯ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศทางธุรกิจการค้าปลีกเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 24 K ส่วนสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับนั้น ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้า คำแนะนำเกี่ยวกับระบบงานต่าง ๆ เทคนิคและการบริหารกิจการ การฝึกอบรมบุคลากรที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง การส่งเสริมการขาย การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ทางการค้า เช่น การได้รับข่าวสาร และข้อมูลด้านการตลาดจากทางพรีม่าโกลด์อย่างครบถ้วน
นายสว่างกล่าวถึงความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของสินค้าพรีม่าโกลด์นับแต่เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปี 2535 ว่ามีปัจจัยพื้นฐานมาจากภาพพจน์ที่ดีของพรีม่าโกลด์ที่ผลิตสินค้าคุณภาพดีและรูปแบบสินค้ามี เอกลักษณ์เฉพาะตัวจนได้รับรางวัลเกียรติสูงสุดของผู้ส่งออกไทย (Prime Minister's Export Award 1996) ประเภทการออกแบบและดีไซน์ มีการพัฒนาและออกแบบสินค้าให้ทันสมัยอยู่เสมอ และยังมีบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งานอีกด้วย และนอกจากจะจำหน่ายในประเทศแล้วพรีม่าโกลด์ยังมีตลาดส่งออกที่สำคัญ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ ซาร์จาห์ และอาบูดาบี) อียิปต์ อินเดีย และกำลังจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกที่ซาอุดิอาราเบียและเวียตนามในเร็ว ๆ นี้
สินค้าพรีม่าโกลด์มีรูปแบบหลากหลายให้เลือก โดย"พรีม่าโกลด์"เป็นเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 24 K ซึ่งเน้นรูปลักษณ์อันโดดเด่นของงานดีไซน์ แบ่งแนวทางการออกแบบเป็น 3 แนวทาง คือ แนว คลาสสิค เน้นแบบเรียบง่าย แฝงด้วยลวดลายทันสมัย เหมาะสำหรับสาวยุคใหม่ที่มีบุคลิกเฉพาะตัว รักอิสระ แนวแอนติค เน้นความปราณีต พิถีพิถัน เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมเครื่องประดับลวดลายละเอียดอ่อน และแนวทางธรรมชาติ เน้นการผสมผสานระหว่างทองผิวมันและผิวด้าน เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมความอ่อนหวาน
ส่วน "พรีม่าไดมอนด์" เป็นเครื่องประดับเพชรแท้สำหรับสาวทำงานยุคใหม่ อายุระหว่าง 18-25 ปี แบ่งแนวทางการออกแบบให้เหมาะกับผู้หญิง 3 บุคลิก ได้แก่ สมาร์ท สไตล์ สำหรับผู้หญิงที่มีบุคคลิกคล่องแคล่วและปราดเปรียว สวีท สไตล์ สำหรับผู้หญิงที่อ่อนหวาน นุ่มนวล และซูพีเรีย สไตล์ สำหรับผู้หญิงที่มีเสน่ห์ เป็นผู้นำ
ปัจจุบันพรีม่าโกลด์มีร้านค้าปลีก เคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าและสาขาแฟรนไชส์ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดรวม 34 แห่ง โดยในกรุงเทพฯมีร้านค้าปลีก 4 แห่ง เคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพรสซิเด้นท์ทาวเวอร์ และที่ท่าอากาศยานดอนเมืองรวม 20 แห่ง มีสาขาแฟรนไชส์ 2 สาขา ได้แก่ที่ เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ และดิเอ็มโพเรียม ในต่างจังหวัด มีเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้า 4 แห่ง ได้แก่ที่ เซ็นทรัลสุคนธา หาดใหญ่ เซ็นทรัลกาดสวนแก้ว เชียงใหม่ คลังพลาซ่า นครราชสีมา เจริญศรี โรบินสัน อุดรธานี มีสาขาแฟรนไชส์ที่เป็นร้านค้าปลีก 1 แห่ง คือที่ แปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา และที่เป็นเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าอีก 3 แห่ง ได้แก่ที่โรบินสันโอเชี่ยน นครศรีธรรมราช โรบินสันโอเชี่ยนภูเก็ต และแฟรี่แลนด์ นครสวรรค์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ บริษัท เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 254-5152--จบ--