กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--แอลจี-วัน
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ เผยผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีเพิ่มขึ้น 319 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 86.62 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.771 พันล้านบาท) ในขณะที่ผลกำไรจากการดำเนินการเพิ่มขึ้นเป็น 471.47 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 15.087 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากไตรมาสที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากผลกำไรที่ดีขึ้นจากกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทั้งนี้รายได้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบของไตรมาสแรกคือ 13.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 427.20 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2556
กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์รายงานรายได้ในไตรมาสแรกนี้ที่ 4.63 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 148.16 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว และมีกำไรจากผลการดำเนินงานอยู่ที่ 224.79 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.193 พันล้านบาท) เกินกว่าตัวเลขประมาณการ อันเป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าประเภททีวีขนาดใหญ่ที่ปรับลดราคาลง เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง โดยคาดว่ายอดขายจะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด แอลจียังคงเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าพรีเมี่ยมในกลุ่ม Ultra HD TV และ OLED TV อย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มขนาดและระดับราคาต่างๆ เพื่อตอบรับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในตลาด
กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือส่งออกสมาร์ทโฟนกว่า 12.3 ล้านเครื่องในไตรมาสแรก คิดเป็น 75 เปอร์เซ็นต์ของโทรศัพท์มือถือที่ส่งออกทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา แอลจียังส่งออกสมาร์ทโฟนกลุ่ม LTE กว่า 5 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดของการส่งออกใน 1 ไตรมาส และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 79 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 41 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกสมาร์ทโฟนทั้งหมดในไตรมาสเมื่อเทียบ 27 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมดในปี 2556 รายได้จากกลุ่มนี้อยู่ที่ 3.19 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 102.08 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วสืบเนื่องจากการเปิดตัว G Pro 2 สู่ตลาดภายในประเทศ และการใช้งบประมาณการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แอลจีคาดว่ารายได้ในไตรมาสที่ 2 จะยังคงเพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง LG G3 รวมถึงการเปิดตัวในวงกว้างของสมาร์ทโฟนสำหรับตลาด แมสอย่าง L Series III
กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมียอดขายที่สูงในตลาดเกาหลี อย่างไรก็ตาม ยอดขายรวมของไตรมาสแรกที่ 2.54 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 81.28 พันล้านบาท) นั้นลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในอเมริกาเหนือ และค่าเงินที่ผันแปรในตลาดประเทศกำลังพัฒนา การปรับโครงสร้างต้นทุนที่ดีขึ้นทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 102.15 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.268 พันล้านบาท) และอัตรากำไรอยู่ที่ 4 เปอร์เซ็นต์ แอลจีคาดว่ารายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะเพิ่มขึ้นจากสินค้าประเภทเครื่องซักผ้าและตู้เย็นซึ่งแอลจีเป็นผู้นำในตลาด
สำหรับกลุ่มเครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นส์ด้านพลังงาน มียอดขายจากผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องปรับอากาศพาณิชย์ในตลาดต่างประเทศคิดเป็น 1.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 36.480 พันล้านบาท) ในไตรมาสแรก และมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 84 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.688 พันล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แอลจีคาดว่ารายได้และผลกำไรจะเพิ่มสูงขึ้นจากยอกขายเครื่องปรับอากาศพาณิชย์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น อุปกรณ์ลดความชื้น และเครื่องกรองอากาศในเกาหลี