กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--วอลโว่ กรุ๊ป
วอลโว่ กรุ๊ป เดินหน้าขยายเครือข่ายตามแผนงาน
- ล่าสุด เปิดสาขาพุทธมณฑล เปิดประตูรับรถจากภาคใต้
- รองรับภาคขนส่งและท่องเที่ยว
บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่และยูดีทรัคส์ แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยล่าสุด เปิดสาขาพุทธมณฑลเพื่อเป็นประตูเปิดให้บริการแบบครบวงจรแก่รถบรรทุกและรถบัสเชื่อมจังหวัดภาคใต้ไปยังภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ
มร. ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าสาขาพุทธมณฑลนี้ ถือเป็นสาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญของวอลโว่ กรุ๊ป ที่จะรองรับระบบคมนาคมขนส่งทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตรและภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่สาขาแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีขนส่งสายใต้ ซึ่งเป็นศูนย์รวมสำคัญของรถบัสที่ให้บริการประชาชนในการเดินทางจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยสู่จังหวัดภาคใต้ หรือรองรับประชาชนจังหวัดภาคใต้ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย ในส่วนของรถบรรทุก สาขานี้ยังใกล้สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ซึ่งเป็นจุดกระจายสินค้าหลักไปทั่วประเทศอีกด้วย
“ผมเชื่อมั่นว่าสาขาพุทธมณฑลเป็นสาขาที่สำคัญต่อวอลโว่ กรุ๊ป อย่างมากเพราะจะเป็นสาขาที่รองรับรถทุกประเภทของวอลโว่ ทรัคส์และวอลโว่ บัส เพื่อรองรับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจขนส่งทั้งภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม และถนนเส้นนี้ถือเป็นอีกถนนเส้นหนึ่งที่เชื่อมต่อภาคใต้สู่ภาคอื่น ๆ” มร. มิเชล กล่าว
มร.มิเชล กล่าวว่าภายใต้แผนการขยายงานของวอลโว่ กรุ๊ป บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณไว้สูงถึง 3,000 ล้านบาทในการสร้างสาขาเพิ่มเติม 10 แห่งและขยายปรับปรุงสาขาปัจจุบันจำนวน 5 แห่ง ทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้มีสาขาที่ให้บริการทั้งอย่างเป็นทางการแล้วจำนวน 14 แห่ง และวอลโว่ กรุ๊ป จะเร่งเปิดให้ครบตามแผนงานทั้งสิ้น 15 แห่งภายในครึ่งปีนี้
มร.มิเชล กล่าวเพิ่มเติมว่าศูนย์บริการสาขาสถานีขนส่งสายใต้แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 11 ไร่ มี ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการทั้งแบรนด์วอลโว่ และแบรนด์ยูดี พร้อมให้บริการ 10 ช่องซ่อม ตามแบบมาตรฐานของวอลโว่ สามารถรองรับการให้บริการได้มากกว่า 20 คันต่อวัน
“ผมมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าสาขาพุทธมณฑลแห่งนี้ จะเป็นสาขาที่สามารถให้บริการได้ทั้งรถที่มาจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยเพราะรถทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกหรือรถบัส ที่จะเดินทางลงภาคใต้นั้น ส่วนใหญ่จะต้องผ่านถนนเส้นนี้” มร. มิเชลกล่าว
มร. มิเชล กล่าวเพิ่มเติมว่าการขยายเครือข่ายครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของวอลโว่ กรุ๊ป ในขณะนี้ จะเป็นการลงทุนขยายเครือข่ายเพื่อรองรับกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคการขนส่งและภาคการท่องเที่ยว อีกทั้งการลงทุนทางด้านปัจจัยพื้นฐานของประเทศ ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลใหม่ที่จะต้องเดินหน้าต่อไป
ท่านสื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
คุณวิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว
Manager – Brand & Marketing Communicationโทร. (02) 707 1747 ต่อ 1214
อีเมล์ wilawan.wispapaew@volvo.com