กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--กรมควบคุมโรค
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย และมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ จัดแถลงข่าว เรื่อง “การรักษาคือการป้องกัน เพื่อเป้าหมายในการยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทย” พร้อมใช้มาตรการการรักษาด้วยยาต้านไวรัสแต่เนิ่นๆ ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อในคู่ได้ถึงร้อยละ 96 เพื่อช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายและลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เหลือน้อยกว่า 1,000 ราย ภายในปี 2573 และไม่มีเด็กที่คลอดใหม่ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย
ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค มอบหมายให้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมการแถลงข่าวเรื่องการรักษาคือการป้องกัน เพื่อเป้าหมายในการยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทย พร้อมศาสตราจารย์กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย พญ.นิตยา ภานุภาค ผู้วิจัยหลักโครงการ opposites attract ในประเทศไทย คุณนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และคุณเบ็ญจามินทร์ บาวินตัน ผู้วิจัยร่วมโครงการ opposites attract จากประเทศออสเตรเลีย
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคเอดส์ว่าปัจจุบันประเทศไทยยังมีผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เกือบ 1 หมื่นราย ในแต่ละปีมีผู้ที่เสียชีวิตที่เป็นผลจากการติดเชื้อเกือบ 2หมื่นราย และมีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ปัจจุบันมากกว่า 460,000 ราย ซึ่งจากการทบทวนการดำเนินงานและการปรึกษาหารือระดับชาติ คณะทำงานได้ดำเนินการประมวลข้อมูลและทำงานร่วมกับที่ปรึกษาทางเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข โดยใช้ตัวแบบจำลองการคาดประมาณพบว่าการใช้มาตรการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะลดการติดเชื้อฯรายใหม่ลงได้ 2 ใน 3 ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2559 แต่หากใช้มาตรการเสริมเพิ่มเติมจากองค์ความรู้ใหม่ การรักษาด้วยยาต้านไวรัสแต่เนิ่นๆจะช่วยป้องกันการติดเชื้อฯในคู่ได้ถึงร้อยละ 96 จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย และลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เหลือน้อยกว่า 1,000 ราย ภายในปี 2573 รวมทั้งจะไม่มีเด็กที่คลอดใหม่ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย การดำเนินการตามมาตรการนี้จะป้องกันการติดเชื้อรายใหม่ได้ 20,000 คน และลดการเสียชีวิตจากเอดส์ได้ถึง 22,000 คนในระยะเวลา 10 ปีของการดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอมาตรการดำเนินงานยุติปัญหาเอดส์เพิ่มเติมกับแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ปี 2557-2559
“ในส่วนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายยุติปัญหาเอดส์ โดยได้กำหนดมาตรการสำคัญการดำเนินงาน และระดมทรัพยากรเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ภายใต้มาตรการสำคัญ 7 ข้อ คือ 1.การเข้าถึงเชิงรุกและชักชวนประชากรหลักเป้าหมาย (ชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย สาวประเภทสอง พนักงานบริการหญิงและชาย และผู้ใช้ยาด้วยวิธีฉีด ผู้ต้องขัง และคู่ของผู้มีผลเลือดบวก) ให้ได้ข้อมูลอุปกรณ์ป้องกันและเข้ารับบริการผสมผสานครอบคลุมร้อยละ 90 2.การส่งเสริมการรู้สถานะการติดเชื้อให้กับประชากรวัยเจริญพันธุ์ทุกคน โดยมุ่งเน้นให้ครอบคลุมประชากรหลักร้อยละ90 3.การให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัสแต่เนิ่นๆในทุกคนที่ตรวจพบว่าติดเชื้อฯ 4.การสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมายคงอยู่ในระบบบริการและกินยาสม่ำเสมอ 5.การพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบบริการสุขภาพและระบบชุมชน เพื่อรองรับการดูแลต่อเนื่องตลอดชีวิต 6.การปรับภาพลักษณ์เอดส์ให้เป็นเรื่องธรรมดาสามารถจัดการได้ รวมทั้งการลดการตีตราเลือกปฏิบัติและส่งเสริมกลไกการคุ้มครองสิทธิ และ 7.การพัฒนาและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์และการติดตามประเมินผล ขณะนี้กรมควบคุมโรคได้ประสานกับกองทุนประกันสุขภาพทั้ง 3 กองทุน เพื่อเริ่มเกณฑ์การรักษาผู้ติดเชื้อด้วยยาต้านไวรัสที่มีความพร้อม โดยไม่ต้องรอระดับ CD4 ให้ต่ำ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 พร้อมขยายขอบเขตกองทุนบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีให้สนับสนุนการดำเนินงานการป้องกันดังกล่าวด้วย ประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค โทร 02 590 3215 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทร 1422” นพ.สมศักดิ์ กล่าว