กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--CMO
“ซีเอ็มโอ” เปิดอาณาจักร“Bangkok Creative Playground” ศูนย์รวมธุรกิจทางด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในอาเซียน บนพื้นที่ 12 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร CMO เผย ที่นี่จะเป็นที่รวบรวมกลุ่มธุรกิจด้านสร้างสรรรค์งานอีเว้นท์ทุกประเภทไว้ด้วยกัน แถมยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานในกลุ่ม CMO Group โดยทำงานภายใต้คอนเซ็ปต์ “Work Live Play” ทั้งเป็นที่ทำงาน –ที่ใช้ชีวิต และที่เล่นสนุก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงาน ได้ทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์และมีความสุข พร้อมเปิดแผนธุรกิจสู่รายได้ 2,000 ล้านบาท ลุยงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรแห่งอาเซียน เปิดเผย ในปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรอบ 28 ปี เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสร้างสรรค์ โดยลงทุนสร้างอาณาจักรทางด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มูลค่าโครงการกว่า 500 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ “Bangkok Creative Playground” บนพื้นที่ 12 ไร่ ชูแนวคิด “Work Live Play” ซึ่งหมายถึงสถานที่แห่งนี้เป็นทั้งที่ทำงาน ทั้งที่ใช้ชีวิตของพนักงาน และยังเป็นที่ให้แรงบันดาลใจผ่านการเล่นในที่ทำงานอีกด้วย
ทั้งนี้ Bangkok Creative Playground คือสถานที่ที่รวบรวมกลุ่มธุรกิจด้านสร้างสรรรค์งานอีเว้นท์ทุกประเภทไว้บนพื้นที่เดียวกัน ตลอดจนให้บริการด้านการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจรกับลูกค้า และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานในกลุ่ม CMO ทั้ง 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด และ บริษัท ดิอายส์ จำกัด และยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพอีกด้วย ซึ่งที่นี่จะประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานทั้งหมด 3 อาคาร ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบตัวอาคาร ตลอดจนมีแนวคิดที่ต่างกัน
สำหรับตึกแรกคือ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำธุรกิจการตลาดแบบสร้างประสบการณ์ โดยอาคารนี้จะรวมพิพิธภัณฑ์ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเข้าด้วยกัน แนวคิดหลักของตึกนี้ คือการสร้างพื้นที่ ให้เป็น Informal Interaction หรือพื้นที่ที่เน้นการมีปฏิสัมพันธ์กันแบบไม่เป็นทางการ เช่น นั่งทำงานตรงไหนก็ได้ และมีจุดสันทนาการวางไว้หลายจุดเพื่อให้เกิดการใช้พื้นที่ร่วมกันของพนักงาน
ตึกที่สองคือ บริษัท ดิอายส์ จำกัด ที่จะเน้นความเป็นสตูดิโอ เนื่องจากเป็นโปรดักชั่น เฮ้าส์ มีห้องตัดต่อที่เชื่อมโยงกันได้หมด ส่วนภายนอกอาคารจะมีเปลือกหุ้มกระจกเป็นโลหะสีเงิน โดยเจาะรูไว้ระบายลมระบายอากาศ เรียกว่า Double Shell เพื่อเป็นตึกประหยัดพลังงาน ทำให้ความร้อนที่ไปกระทบกับกระจกลดลง กว่า 70% เพื่อให้อุณหภูมิบนตัวอาคารจะลดลง
ส่วนตึกสุดท้ายคือ บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด มีแนวคิดมาจากการใช้กล่องสามกล่องมาประกอบกัน คือมีกล่องออฟฟิศด้านหน้า แล้วก็จะมีกล่องกระจกตัวหนึ่งที่ลอยอยู่ข้างบน ลอยอยู่เหนือสีดำ วิ่งทะลุเข้าไปในกล่องสุดท้ายคือโกดังขนาดใหญ่ มีหลังคาที่มีความยาวเพื่อให้แสงส่องโดยตรงให้อารมณ์เหมือนห้องใต้หลังคา
“การลงทุนครั้งนี้ นับเป็นครั้งใหญ่ในรอบ 28ปี ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท สาเหตุที่เราคิดสร้างอาณาจักรแห่งนี้ขึ้นมา ก็เนื่องจากว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะย้ายบริษัทในเครือทั้งหมดให้มาอยู่รวมกัน และงานของเราทั้งหมดทุกบริษัทใน CMO Group เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น เราจึงต้องการให้มีที่ทำงาน ที่ให้พนักงานได้มีแรงบันดาลใจในการทำงาน บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศ และตกแต่งให้ที่นี่ เป็นออฟฟิศในฝัน ของคนทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์” นายเสริมคุณ กล่าว
สำหรับในช่วงระยะเวลา 3 ปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท โดยการเติบโตธุรกิจจะมาจากการรับงานทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ เตรียมขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่ม Entertainment ทั้งจัดกิจกรรมปาร์ตี้คอนเสิร์ต และ Special Event ตลอดจนเข้าไปร่วมเป็นพันธมิตรกับรายการทีวี
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า หลังเดือนเมษายน ภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์ดีขึ้น เนื่องจากว่า สถานที่หลักๆ กลางเมือง สามารถจัดงานได้ตามปกติ ทำให้บริษัทเอกชนต่างๆ เริ่มกลับมาจัดอีเว้นท์กระตุ้นกำลังซื้อกันมากขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าปีนี้ รายได้เข้าเป้า 1,200 ล้านบาท โดยที่ปัจจุบันมีงานที่รอรับรู้รายได้อยู่ที่ 750 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯเชื่อว่าด้วยศักยภาพของบริษัท และความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนาบุคคลากร ความคิดสร้างสรรค์ จะทำให้บริษัทถึงเป้า 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีได้อย่างแน่นอน