กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือนการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กไทย พร้อมแนะดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำหรือว่ายน้ำตามลำพัง ให้เด็กสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่โดยสารเรือหรือประกอบกิจกรรมทางน้ำ ฝึกฝนให้เด็กมีทักษะในการว่ายน้ำและช่วยเหลือตนเองเมื่อพลัดตกน้ำอย่างปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการจมน้ำเสียชีวิตในเด็ก
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิตมากที่สุด โดยมีสาเหตุจากความซุกซน ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และการไม่มีทักษะในการว่ายน้ำและช่วยเหลือตนเองอย่างถูกวิธีเมื่อพลัดตกหรือจมน้ำ รวมถึงผู้ปกครองไม่ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดและสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีป้องกันเด็กจมน้ำเสียชีวิต ดังนี้ สำรวจจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยทางน้ำ โดยพาเด็กเดินสำรวจสภาพแวดล้อมบริเวณรอบบ้านและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้เด็กรู้ถึงจุดเสี่ยงอันตรายทางน้ำ พร้อมสอนเด็กมิให้เล่นใกล้แหล่งน้ำหรือริมตลิ่ง เพื่อป้องกันการพลัดตกน้ำ ทำให้จมน้ำเสียชีวิต ดูแลการเล่นน้ำของเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กว่ายน้ำหรือเล่นน้ำตามลำพัง เพราะหากเด็กเป็นตะคริวหรือถูกสัตว์มีพิษกัด จะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งดูแลเด็กมิให้เล่นน้ำในลักษณะผาดโผนเพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ รวมถึงให้เด็กใช้ห่วงยาง โฟมลอยน้ำ หรือสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งที่ประกอบกิจกรรมทางน้ำ แม้เด็กจะว่ายน้ำเป็นก็ตาม หากประสบอุบัติเหตุเสื้อชูชีพจะช่วยพยุงตัวเด็กให้ลอยตัวรอการช่วยเหลือ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการจมน้ำเสียชีวิต สร้างสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยจากอุบัติภัยทางน้ำ ด้วยการปิดประตูห้องน้ำให้สนิท จัดให้มีฝาปิดหรือฝาครอบภาชนะกักเก็บน้ำ สร้างรั้วหรือทำตะแกรงกั้นล้อมรอบแหล่งน้ำ ติดป้ายเตือนอันตรายและจัดให้มีอุปกรณ์ช่วยเหลือคนตกน้ำไว้บริเวณใกล้ๆ แหล่งน้ำ พร้อมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของสระว่ายน้ำ ผู้ปกครองที่พาเด็กไปว่ายน้ำควรเลือกสระว่ายน้ำที่ปลอดภัย โดยพิจารณาจากกฎระเบียบข้อบังคับ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของสระว่ายน้ำ รวมถึงมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตและเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และให้เด็กเล็กเล่นน้ำในสระเด็กหรือสระน้ำที่มีระดับน้ำตื้น ตลอดจนฝึกฝนให้เด็กมีทักษะในการว่ายน้ำและช่วยเหลือตนเองเมื่อพลัดตกน้ำอย่างปลอดภัย โดยฝึกให้เด็กลอยตัวในน้ำได้เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 นาที ในท่าต่างๆ อาทิ ท่าปลาดาว ท่าแมงกะพรุน ท่าลูกหมาตกน้ำ ท่าแม่ชีลอยน้ำ โดยให้ปากและจมูกโผล่พ้นน้ำ ใช้มือทั้งสองข้างสลับกันพุ้ยน้ำ ใช้ขาถีบน้ำในท่าปั่นจักรยาน จะช่วยให้สามารถพยุงตัวลอยน้ำได้ อีกทั้งควรฝึกให้เด็กว่ายน้ำจากท่าลอยตัวได้ในระยะ 15 เมตร หากพลัดตกน้ำเด็กจะสามารถช่วยเหลือตนเองเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ การส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้อันตรายจากการเล่นน้ำ และวิธีป้องกันการจมน้ำจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากการจมน้ำในเด็ก