กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--เวิรฟ
เพราะเวลาแห่งความหมองคล้ำ ไม่เคยหยุดเดิน ผิวของเรานั้นจึงถูกทำร้ายจากแสงแดดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ สาวๆ ส่วนใหญ่คงกำลังวางแผนการท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมที่ต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “โอเรียนทอล พริ้นเซส” เข้าใจความต้องการของผู้หญิงเป็นอย่างดีว่า ถึงแม้ผิวสวยต้องเจอกับแดดแรงแค่ไหน ก็ยังต้องการที่จะมีผิวขาวใส ปราศจากร่องรอยของความหมองคล้ำจากแสงแดด ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมหลากหลายเทคนิคการดูแลและฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับซัมเมอร์นี้มาให้สาวๆ ได้ลองทำตามกัน
คุณอภัยพร ศรีสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอ. พี. เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด กล่าวว่า “น่าแปลกใจว่าสาวไทยส่วนใหญ่ที่รักความสวยความงามในยุคนี้ ยังคงละเลยการใช้ “ครีมกันแดด” จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยในปี 2556 ที่ผ่านมา พบว่าผู้หญิงไทยวัยทำงานเพียงแค่ 5% เท่านั้น ที่มีพฤติกรรมการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ ขณะที่มีผู้หญิงอีกจำนวนมากคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดด ทั้งยังเข้าใจว่าครีมกันแดดนั้นเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสาวๆ บางราย ที่เข้าใจว่าการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ผสมสารป้องกันแสงแดดก็น่าจะเพียงพอแล้ว ทั้งที่จริงแล้วครีมกันแดดกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ผสมสารป้องกันแดด มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวหน้าที่ผสมสารป้องกันแสงแดดมักมีค่า SPF ไม่สูง และไม่ปกป้องรังสี UVA ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย ขณะที่ครีมกันแดดเน้นการปกป้องและถูกออกแบบมาให้มีความคงตัว นั่นคือ ไม่เสื่อมประสิทธิภาพได้ง่ายเมื่อโดนแสงแดด ด้วยลักษณะของเนื้อครีมที่เกาะติดผิวได้ยาวนานกว่า และหลุดลอกได้ยากกว่าครีมบำรุงผิวผสมสารป้องกันแสงแดด อีกทั้งครีมกันแดดยังมีโครงสร้างโดยรวมของอนุภาคเนื้อครีมเล็กกว่าเครื่องสำอางจึงกระจายตัวเพื่อปกป้องผิวได้ดีกว่า หากใช้เครื่องสำอางผสมสารป้องกันแสงแดดแทนครีมกันแดด จึงต้องใช้ในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการปกป้องเท่ากับครีมกันแดด ทำให้ผิวหน้าเราดูหนาและ ไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้น เพื่อรับมือกับดีกรีความร้อนและแสงแดดช่วงซัมเมอร์ ครีมกันแดดจึงเปรียบได้กับเกราะอีกชั้นที่มีคุณสมบัติเฉพาะในการปกป้องผิวจากแสงแดดหรือรังสียูวีได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
มั่นใจว่าผิวขาวใส ปลอดภัยจากแสงแดดได้ทุกวินาที ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของครีมกันแดด
“โอเรียนทอล พริ้นเซส” เข้าใจความต้องการของผู้หญิงเป็นอย่างดีว่า ในปัจจุบันผิวสวยของสาวๆ ต้องเผชิญกับแดดแรงที่ร้อนจัด มลภาวะและรังสียูวีหลากหลายรูปแบบ บวกกับไลฟ์สไตล์ของสาวๆ ในยุคนี้ที่ต้องทำกิจกรรมหลายอย่างในหนึ่งวัน สาวๆ ก็ยังคงปรารถนาที่จะมีผิวขาวใส ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามเรื่องการดูแลปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ และเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับกิจกรรม พร้อมทั้งยังช่วยบำรุงผิวหน้าให้แลดูกระจ่างใสขึ้นได้ด้วย ผลิตภัณฑ์โอเรียนทอล พริ้นเซส เนเชอรัล ซันสกรีน เอ็นริช โพรเทคชั่น แอนด์ ไวท์เทนนิ่ง สำหรับผิวหน้าและผิวกาย SPF30 (ORIENTAL PRINCESS NATURAL SUNSCREEN ENRICHED PROTECTION & WHITENING FOR FACE & BODY SPF30) ที่มีค่า SPF30 เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันของสาวๆ ใช้เป็นประจำทุกวัน 2 สูตรสำหรับการปกป้องผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส และปกป้องผิวกายให้ขาวเนียน
สาวๆ หลายคนคงจะเคยประสบปัญหาเกี่ยวกับครีมกันแดดมามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหงุดหงิดใจ เมื่อพบว่าถึงแม้จะใช้ครีมกันแดดแล้ว แต่ก็ยังเกิดรอยไหม้หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอกันหลังออกแดดจนได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการใช้ครีมกันแดดอย่างไม่ถูกต้องและไม่ถูกวิธีด้วยกันทั้งสิ้น เพราะการใช้ครีมกันแดดไม่ใช่เป็นเพียงแค่การทาลงไปบนผิวเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบและปัจจัยอื่นๆ ที่สาวๆ ควรจะต้องรู้และปฎิบัติตามด้วย เพื่อให้ครีมกันแดดที่ทาลงไปมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวของคุณได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้สาวๆ ยังไม่ควรละเลยการทาครีมกันแดดในจุดสำคัญ ที่นอกเหนือจากผิวหน้าและผิวกายด้วย เช่น การทาครีมกันแดดบริเวณท้ายทอยหรือต้นคอ เพราะผิวบริเวณดังกล่าวเป็นส่วนที่สัมผัสกับปริมาณแดดในระดับเดียวกับใบหน้า และยังเป็นการเกลี่ยทาเพื่อให้สีผิวสม่ำเสมอกัน รวมถึงบริเวณหลังเท้าที่สาวๆ อาจมองข้าม เพราะหากผิวหลังเท้าไม่ได้รับการปกป้องก็อาจเกิดเป็นรอยด่างดำจากสายคาดหรือลวดลายของรองเท้าที่คุณสวมใส่ก็เป็นได้
เตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทาครีมกันแดด ด้วยขั้นตอนการ “ขัดผิว”
การทำสครับ หรือ ขัดผิว เป็นขั้นตอนการปรับสภาพผิว โดยกำจัดเอาเซลล์ผิวส่วนที่ตายแล้วหรือเสื่อมสภาพ เรียกได้ว่าช่วยขจัดสารพิษและลดการอุดตันของเซลล์ผิวจากของเสียต่างๆที่ตกค้างบนผิวออกไปทางระบบน้ำเหลือง ทำให้กระบวนการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวดีขึ้น ซึ่งควรทำอาทิตย์ละไม่เกิน 2 ครั้งก็เพียงพอสำหรับผิวหน้าและผิวกาย โดยขั้นตอนการขัดผิวเริ่มตั้งแต่ 1) ทำผิวให้เปียกด้วยน้ำ 2) นำผลิตภัณฑ์ขัดผิวเทใส่ใยบวบ ฟองน้ำหรือถุงมือ เกลี่ยหรือกระจายให้ทั่วมือและลูบไล้ลงผิวเบาๆ 3) นวดผลิตภัณฑ์ขัดผิวด้วยการวนมือเป็นลักษณะวงกลมเบาๆ เพื่อกระตุ้นระบบการไหลเวียน 4) ล้างน้ำออกให้หมดจด ซับให้แห้งและทาครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นสูงขณะที่ผิวยังชื้นอยู่ หลังจากนั้นจึงเริ่มทาครีมกันแดด ซึ่งการหมั่นขัดผิวเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรองรับการบำรุงจากครีมบำรุงต่างๆ และช่วยให้อนุภาคของครีมกันแดดสามารถเกาะติดผิวได้ดีกว่า เพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องผิวมิให้เสื่อมสภาพและหมองคล้ำจากมลภาวะ แสงแดดและแสงไฟได้
ใช้ครีมกันแดดอย่างไร ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน (Daily Use)
การทาครีมกันแดดที่ถูกวิธีจะทำให้ผิวได้รับการปกป้องอย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น รายละเอียดสำคัญที่สาวๆ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ หรืออาจจะเผลอมองข้ามไป นั่นคือการเว้นระยะเวลาในแต่ละลำดับขั้นตอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สาวๆ ควรจะเว้นระยะเวลาประมาณ 5-10 นาทีในแต่ละชั้น ก่อนและหลังการทาครีมกันแดด เพื่อที่ครีมแต่ละชนิด ไม่ว่าจะเป็น มอยซ์เจอไรเซอร์ ครีมกันแดด หรือรองพื้น ไม่ผสมรวมกันจนทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องรังสียูวีของครีมกันแดดลดน้อยลง แต่หากสาวๆ ไม่มีเวลามากพอ อาจใช้เทคนิคง่ายๆ อาทิ กรณีสาวผิวมัน หากไม่มีเวลาพอให้เว้นระยะสักพักหนึ่งเพื่อให้ครีมบำรุงได้ซึมซาบลงบนผิวหน้าก่อน อาจเลือกใช้กระดาษทิชชู่แผ่นใหญ่วางทาบลงบนผิวหน้า พร้อมใช้ปลายนิ้วกดลงเบาๆ เพื่อซับน้ำมันส่วนเกินออก เว้นระยะสักครู่แล้วต่อด้วยการลงครีมกันแดดโดยใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเนื้อครีมกันแดดจากบริเวณด้านในสู่ด้านนอกของใบหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เนื้อครีมดูเรียบเนียน พร้อมรอจนเนื้อครีมซึมลงสู่ผิวหน้าสักพักก่อนสู่ขั้นตอนของการลงรองพื้น เป็นต้น
ฟื้นบำรุงผิวสวย ให้กลับมากระจ่างใสหลังออกแดด
เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาเผชิญแสงแดดแล้ว สาวๆ ก็ไม่ควรละเลยการดูแลฟื้นฟูผิวเสียจากแสงแดด ให้กลับมาขาวใสกันด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. หลังออกแดดทันที ปรับอุณหภูมิผิวหลังโดนแดดเผา โดยใช้ผ้าขนหนูที่แช่เย็นหรือชุบน้ำเย็นประคบตรงบริเวณที่โดนแดดเผาอย่างเบามือ เพื่อปรับอุณหภูมิของผิวหนังในบริเวณนั้นให้กลับมาเป็นปกติ โดยทำซ้ำหลายๆ รอบ ควรเลี่ยงการถูใบหน้าด้วยสบู่ล้างหน้าหรือครีมล้างหน้าต่างๆ แล้วใช้เพียงน้ำสะอาดแทน
2. ระยะช่วงหลังออกแดด 1-3 วันหรือช่วงที่ผิวยังปรากฎรอยไหม้จากแดดอยู่ ควรอดใจรอและลดการใช้เครื่องสำอางและสารบำรุงผิวต่างๆ ลง มากกว่าจะไปโหมเร่งประทินผิวด้วยสารพัดครีมบำรุง เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่อาจขึ้นกับผิวในช่วงเวลาที่ผิวบอบบางเป็นพิเศษ เพราะในช่วงระยะเวลานี้ เครื่องสำอางอาจจะยิ่งซ้ำเติมรอยแผลและการฟื้นฟูผิวได้ ให้เวลาผิวได้ปรับตัวให้ดีขึ้นก่อน
3. ระยะที่รอยหมองคล้ำจากแดดดีขึ้นแล้ว เร่งเติมน้ำให้กับผิว เพื่อชดเชยปริมาณน้ำใต้ผิวที่ลดลงไปอย่างมาก ก็ได้เวลาของเครื่องสำอางและครีมบำรุงต่างๆ จะรับบทเอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวที่ควรเพิ่มการบำรุงให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่า เพื่อเติมน้ำให้ผิวอย่างเพียงพอ
4. ระยะที่ผิวกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ควรเร่งปกป้องน้ำในผิวต่อเพื่อลดโอกาสเกิดฝ้ากระ ควรบำรุงผิวเพิ่มเติมด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เซรั่ม หรือพืชที่มีคุณสมบัติให้ความเย็น ช่วยปกป้องความชุ่มชื่นในผิวสูงอาทิ แตงกวาหรือว่านหางจระเข้ หรือสารบำรุงที่มีส่วนผสมในการช่วยยับยั้งการขยายตัวของเม็ดสีเมลานิน อย่างเช่น ส่วนผสมของวิตามินซี หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำพวกไวท์เทนนิ่งที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องการเกิดฝ้าและกระให้กับผิวได้ดีขึ้น และที่สำคัญควรทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเกราะอีกชั้นให้กับผิว
พบกับผลิตภัณฑ์โอเรียนทอล พริ้นเซส เนเชอรัล ซันสกรีน เอ็นริช โพรเทคชั่น แอนด์ ไวท์เทนนิ่ง สำหรับผิวหน้าและ ผิวกาย SPF30 (ORIENTAL PRINCESS NATURAL SUNSCREEN ENRICHED PROTECTION & WHITENING FOR FACE & BODY SPF30) ที่มีค่า SPF30 เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันของสาวๆ ใช้เป็นประจำทุกวัน 2 สูตรสำหรับการปกป้องผิวหน้าให้ขาวใส และปกป้องผิวกายให้ขาวเนียนได้แล้ววันนี้ ในราคาเพียง 315 บาท ที่โอเรียนทอล พริ้นเซส ทุกสาขา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.orientalprincesssociety.com