กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--MTS Gold Group
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,287 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,298 เหรียญ/ออนซ์ (22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 32.62 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,850 บาท กับ 19,950 บาท และกลับมาปิดที่ 19,900 บาท กับ 20,000 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 652 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,610 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50บาท เพิ่มขึ้น 2.85% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2.53% GFM14 ปิด 20,190 บาท และ GFQ14 ปิด 20,250 บาท GF10M14 ปิดที่20,190 บาท GF10Q14 ปิดที่ 20,240 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,294.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.4 เซ็นต์ ปิดที่ 19.547 ดอลลาร์/ออนซ์SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 780.46 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 101.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 19.97 จุด ปิดที่ 16,715.44 จุด
ข่าวที่สำคัญ
- ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในคืนวันอังคารที่ผ่านมาจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาจากแรงกดดันจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงแม้ว่าตัวเลขยอดค้าปลีกจะออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตามซึ่งราคาทองคำมีการทะยานตัวขึ้นไปอยู่บ้างหลังจากประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกที่ออกมาที่ระดับ 0.1% ที่ต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.5%
- รายงานจากคิทโก้ระบุว่าการประกาศตัวเลข German Zew Economic Sentiment ที่ลดลงกว่าที่คาดสู่ระดับ 33.1จุด จากที่คาดว่าจะอยู่ที่ 41.3 จุดที่แสดงให้เห็นว่าเยอรมันที่เป็นประเทศที่เติบโตดีทางด้านเศรษฐกิจในยุโรปมากที่สุดเริ่มกังวลต่อภาวะเงินฝืดส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่ากดดันให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้
- สำหรับสถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียยังคงมีอยู่และยังคงมีการปะทะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงซึ่งตลาดยังคงไม่ได้กังวลกับเหตุการณ์ในเวลานี้มากนักแต่ยังคงให้ความสนใจและทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในเวลานี้
- ราคาทองคำทางเทคนิคภาพรวมยังคงให้อารมณ์ภาวะหมีขาลงขณะที่ภาวะกระทิงขาขึ้นยังคงต้องฝ่าทะลุระดับเป้าหมายให้ได้เสียก่อน ราคาทองคำมีแนวต้านที่ระดับ 1,300 เหรียญและแนวรับที่ระดับ 1,280 เหรียญ
SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 780.46 ตันโดยได้ทำการเทขายออกมา 2.39 ตัน ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
- รายงานจาก OECD ได้รายการการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจจีนนั้นเริ่มชะลอตัวลงในเดือนนี้และเดือนถัดไปขณะที่ประเทศอื่นๆนั้นยังคงคงที่ซึ่งภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนเติบโตที่ระดับ 8.7% ที่ยังคงต่ำกว่าที่คาดซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าทางการจีนเองนั้นต้องการลดความร้อนแรงลงเองเพื่อป้องกันสภาวะฟองสบู่ก่อนที่จะแก้ไขได้ยากในภายหลังหากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
- ธนาคารบุนเดสแบงค์ ของเยอรมันได้กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า พวกเขายังคงกังวลเรื่องภาวะเงินฝืดอยู่มากสำหรับเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปซึ่งคำกล่าวดังกล่าวก็ส่งผลต่อค่าเงินยูโรทันทีปรับตัวอ่อนค่าลง และธนาคารบุนเดสแบงค์นี้เป็นหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการสนับสนุนนโยบายทางการเงินของ ECB
- ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงที่ระดับ 1.3707 ดอลลาร์ต่อยูโรจากที่ร่วงลงต่ำสุดที่ระดับ 1.3689 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อวานนี้เนื่องจากยังคงมีสัญญาณทางด้านสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโตแบบไม่แน่นอนและยังคงอ่อนแออยู่ในเวลานี้
- รายงานจากบลูมเบริ์กระบุว่าการจับจ่ายของชาวอเมริกันนั้นถือว่ายังคงทรงตัวกว่าครั้งก่อนจากที่เกิดสภาวะสภาพอากาศที่หนาวเหน็บผิดปกติแม้ว่าการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% แต่อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ส่วนมากมองว่าหลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานได้ปรับตัวดีขึ้นการจับจ่ายของผู้คนมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตเช่นกัน
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืน เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งก่อนหน้านี้
- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวานนี้
- นักบริหารเงิน คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
- วันนี้ (14 พ.ค.) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีจะหารือกับ กกต. เกี่ยวกับการออกพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 12 พ.ค.
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -36.9B ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 106.9B
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนวันอังคารที่ 13 พ.ค.
- Core Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ 1.0% ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 0.0%
- Retail Sales m/m เดิมอยู่ที่ 1.5% ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 0.1%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.5% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 0.2%
- Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.6% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 0.2%
ทิศทางราคาทองคำ
โดยภาพรวมตลาดทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบแคบลักษณะทิศทาง Sideways ระหว่าง 1,291-1,297 เหรียญ โดยที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นในเช้านี้ หลังจากที่การเมืองไม่ได้มีความรุนแรงต่อเนื่อง และหลุดระดับ 32.63 บาท/ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเงินบาทก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาทองคำไทย โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในเรื่องยอดค้าปลีกอยู่ในภาวะไม่กระเตื้องเท่าไหร่นัก สำหรับภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอเมริกาคืนนี้ ได้แก่ PPI และ Core PPI คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง ซึ่งไม่น่าส่งผลกระทบกับราคาทองคำเท่าไหร่นัก ขณะที่ SPDR ยังคงถือครองทองคำที่ระดับต่ำ 780.46 ตัน หลังจากที่วันจันทร์ลดการถือครอง 2.39 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในเชิงระยะสั้นทางเทคนิคเป็น Sideways ขณะที่ระยะกลางกับระยะยาวเป็นทิศทางขาลงมากกว่า
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำกลยุทธ์ทิศทาง Sideways ในกรอบแคบระหว่าง 1,290-1,297 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำทำกำไรระยะสั้น ตามสภาพตลาดที่เคลื่อนตัวไม่มากนัก โดยที่มีแนวโน้มหลักเป็นขาลง
Gold Futures M14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,220 บาท
Gold Futures Q14 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,280 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1.ตลาด TFEX มีการ Update ระบบ Streaming สำหรับ iphone และ iPad สามารถ Update ระบบใหม่ได้ที่ App Store หากไม่ Update จะไม่สามารถเข้าระบบได้ สอบถามเพิ่มเติม 02-770-7799
2. รายการ “รู้ก่อนรวยกว่า” ทางสถานี TNN24 ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 13.05-13.30น.
3. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ทางสถานี Money Channel ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.30 – 21.35น.