กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--บัตรกรุงไทย
เคทีซีโชว์ผลประกอบการไตรมาส 1/2557 เป็นบวกทุกด้าน กำไรสุทธิ 355 ล้านบาท เติบโต 77% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนกระแสเศรษฐกิจซบและความไม่แน่นอนทางการเมือง พอร์ตลูกหนี้สุทธิและฐานสมาชิกขยายตัวต่อเนื่อง ในขณะที่ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะเน้นให้ธุรกิจเติบโตอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการพัฒนาและนำเสนอโปรแกรมการตลาดครอบคลุมทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเพื่อให้สมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุด มั่นใจสิ้นปีรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลประกอบการเคทีซีในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา มีรายได้รวม 3,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% จากกำไรดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษ) ในไตรมาส 1/2556 ที่มีมูลค่า 201 ล้านบาท โดยมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 49,078 ล้านบาท พอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 44,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 42,684 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ฐานสมาชิกรวม 2.3 ล้านบัญชี ประกอบด้วย บัตรเครดิต 1,636,444 บัตร ยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ 30,808 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช” เท่ากับ 650,856 บัญชี ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ 13,915 ล้านบาท ลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บัตรเครดิตลดเหลือ 2.2% และ NPL สินเชื่อบุคคลเหลือเพียง 1.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่หนี้สูญได้รับคืนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือเท่ากับ 414 ล้านบาท”
“แม้ว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมความต้องการสินเชื่ออาจลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความผันผวนของสถานการณ์ทางการเมือง แต่เคทีซียังคงเดินหน้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยโปรแกรมการตลาดในผลิตภัณฑ์หลักทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล เนื่องจากการทำตลาดของบริษัทฯ เน้นการ ใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเป็นหลัก ซึ่งเป็นผลดีสำหรับผู้บริโภคที่จะได้รับความคุ้มค่าที่มากกว่า ทุกครั้งในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือการใช้สินเชื่อเงินสดกับเคทีซี ด้วยสิทธิประโยชน์ที่ตรงและตอบโจทย์ความต้องการสมาชิก โดยปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีขยายตัวที่ 3%”
“สำหรับไตรมาสแรกของปี 2557 บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) ทั้งสิ้น 25,090 ล้านบาท เป็นวงเงินของธนาคารกรุงไทย 18,030 ล้านบาท และจากธนาคารพาณิชย์อื่นๆ 7,060 ล้านบาท อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 6.6 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า”
“ในส่วนกลยุทธ์ของเคทีซีจากนี้เพื่อการมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบัตรเครดิต ในปีแรกนี้จะสร้างฐานการเติบโตไปสู่เป้าหมาย ด้วยแนวคิดการทำงาน “Make it Better” เน้นให้ธุรกิจเติบโตอย่างระมัดระวัง ด้วยการควบคุมความเสี่ยงและคุณภาพหนี้ให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามสถานการณ์ภายนอกอย่างใกล้ชิด และเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ และสิทธิประโยชน์ที่ดีกว่าเดิมและคำนึงถึงความต้องการของสมาชิกเป็นหลัก เพื่อให้สมาชิกได้รับประโยชน์สูงสุด โดยบัตรเครดิตจะขยายฐานสมาชิกไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ มีการออกบัตรใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย และโปรแกรมการตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม เจาะกลุ่มคนระดับกลางและบนมากขึ้น สินเชื่อบุคคล จะออกแคมเปญเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับสมาชิก สร้างสรรค์แคมเปญตอบแทนกลุ่มสมาชิกที่มีวินัยในการชำระเงิน และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าถึงและตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย”
“นอกจากนี้เคทีซียังมีแผนดำเนินธุรกิจร่วมกับธนาคารกรุงไทยในส่วนอื่นๆ ต่อเนื่อง โดยผนวกจุดแข็งด้านการตลาดและนวัตกรรมของเคทีซี กับจุดเด่นด้านฐานการเงินของธนาคารกรุงไทย ผ่านการใช้เครือข่ายและฐานลูกค้าของกันและกัน โดยนอกจากจะร่วมมือกันขยายบริการด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินแล้ว ธนาคารฯ ยังได้เริ่มโอนย้ายระบบการติดตามหนี้ในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยมาให้เคทีซีดูแลแทนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการติดตามหนี้และลดต้นทุนของธนาคาร ในด้านบุคลากรของเคทีซี บริษัทฯ ได้เสริมสร้างหลักสูตรพัฒนาบุคลากรในหลากหลายด้านให้มีความพร้อมแข่งขันได้ และด้วยองค์ประกอบทั้งหลายเหล่านี้ จึงเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถทำรายได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้” นายระเฑียรสรุป