กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--กองเกษตรสารนิเทศ
นายชลิต ดำรงศักดิ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมเพื่อหารือและชี้แจงรายละเอียดโครงการ The youth exchange programme between Japan and ASEAN Member States and other countries ณ หอประชุมชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ปากเกร็ด ซึ่งมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือก เข้าร่วมประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนหรือนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในอนาคต ได้มีโอกาสศึกษาดูงานเทคโนโลยีที่ทันสมัย เรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคมญี่ปุ่นและเรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยมุ่งหวังให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการนำความรู้ ประสบการณ์ ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการมาปรับใช้และพัฒนาการประกอบอาชีพในอนาคต
ความเป็นมาของโครงการดังกล่าว ได้เริ่มต้นมาจากที่ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนเยาวชนระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศอื่น ๆ ภายใต้โครงการ The youth exchange programme between Japan and ASEAN Member States and other countries ( JENESYS 2.0 ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศอาเซียนตะวันออก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเชิญเยาวชน เช่น นักเรียนระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย นักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นต้น จำนวน 35,000 คน จาก 41 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป และอเมริกา โดยกำหนดระยะเวลาในการเข้าร่วมโครงการ 9 คืน 10 วัน โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายและมอบหมายให้องค์กรภายในประเทศเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจากประเทศไทยในครั้งนี้ มีทั้งสิ้นจำนวน 50 คน ประกอบด้วย นักศึกษาที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี จำนวน 46 คน และอาจารย์/ผู้ดูแลเยาวชน จำนวน 4 คน โดยมีกิจกรรมของโครงการ คือ 1. การศึกษาดูงานบริษัทญี่ปุ่น 2. การเยี่ยมคารวะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การดูงานอุตสาหกรรมท้องถิ่น 3. การศึกษาวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมย่อยของญี่ปุ่น รวมทั้งการเรียนรู้ถึงค่านิยม ทัศนคติด้านคุณธรรมของคนญี่ปุ่น 4. การแลกเปลี่ยนระดับโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย 5. การใช้ชีวิตร่วมกับคนญี่ปุ่น เพื่อทำให้เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่และค่านิยมของคนญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง 6. การประชุมสรุปโครงการ เพื่อสรุปความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการ และ 7. การายงานผลการเข้าร่วมกิจกรรมไปยังสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
นายชลิต กล่าวอีกว่า การเข้าร่วมในโครงการในครั้งนี้ ถือเป็นผู้แทนของประเทศไทย ต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกที่ต้องแสดงถึงศักยภาพของเยาวชน ที่จะได้ไปศึกษาดูงานบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสินค้านำสมัย การวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเยาวชนจะสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอด นำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม