กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“MC”) มียอดขายในช่วงสามเดือนแรกของปี 2557 จำนวน 855 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 27 จากสามเดือนแรกของปี 2556 และประกาศผลกำไรสุทธิ 207 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปี 2556 ในอัตราร้อยละ 14 รับกับเป้าหมายการเติบโตของบริษัทฯ โดยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการขยายจุดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลตอบรับที่ดีจากแบรนด์สินค้าใหม่ๆ ที่เริ่มจัดจำหน่ายในปี 2556 รวมไปถึงการรับรู้รายได้จากการควบรวมกิจการกับบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด
นางปรารถนา มงคลกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ. แม็คกรุ๊ป เปิดเผยว่า “ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าในไตรมาสนี้จะยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนักสำหรับกรุงเทพมหานคร เนื่องจากบริษัทฯมีจุดจำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วเมือง ไม่ใช่เฉพาะในส่วนที่มีการชุมนุม ทำให้มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่ต่างจังหวัดได้รับผลกระทบบ้างจากการชะลอตัวของการจับจ่ายใช้สอย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงเดินหน้าในการขยายจุดจำหน่ายของกลุ่มธุรกิจตามแผนในปี 2557 ที่ตั้งเป้าไว้ 110 แห่ง เน้นการขยายร้านค้าปลีกของตัวเองให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น โดยสำหรับไทม์ เดคโค บริษัทฯวางแผนที่จะขยายจุดจำหน่ายถึง 10 แห่งภายในปีนี้ เปรียบเทียบกับที่ผ่านมาที่มีการขยายเพียง 2 แห่งต่อปี นอกจากนี้การสร้างแบรนด์สินค้าที่ออกมาใหม่ให้ติดตลาดรวมถึงการหาลูกเล่นของสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคก็เป็นอีกกลยุทธ์ที่วางแผนไว้สำหรับปีนี้”
ในไตรมาส 1 ปี 2557 บริษัทฯ มีจุดจำหน่ายสินค้ารวม 729 แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศ บริษัทฯได้ประเดิมเปิดช่องทางจัดจำหน่ายที่เวียดนามไปแล้ว 1 แห่งที่กรุงฮานอยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และได้ขยายจุดจำหน่ายที่พม่าเพิ่มอีก 2 แห่ง ทำให้ในไตรมาสแรกนี้ บริษัทฯ มีช่องทางจัดจำหน่ายในต่างประเทศทั้งสิ้น 14 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทฯได้เพิ่มร้านค้าเคลื่อนที่ (Mobile unit) อีก 1 คัน ที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายในพื้นที่ชุมชนทั่วประเทศ
นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้กล่าวถึงแผนธุรกิจในอนาคตว่า “บริษัทฯยังมั่นใจว่าจะคงเติบโตต่อไปในปี 2557 โดยคงยึดเป้าที่จะเติบโตเฉลี่ยในอัตราร้อยละ 20 ต่อปี ถึงปี 2559 ด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานธุรกิจทั้งในตลาดธุรกิจเดิมและตลาดใหม่ เน้นการขยายจุดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศสอดคล้องกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มุ่งปั้นแบรนด์ในกลุ่มบริษัทฯให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากขึ้น ตั้งเป้าพิจารณาการเข้าลงทุนเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดธุรกิจไลฟ์สไตล์และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ รวมไปถึงการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นรองรับการเติบโตของธุรกิจ ”