กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--Porsche
ปอร์เช่จัดแสดงรถสปอร์ตปอร์เช่ทุกรุ่นอย่างเต็มรูปแบบในงาน Auto China 2014 ปอร์เช่นำเสนอรถยนต์ปอร์เช่ทุกรุ่นที่สะท้อนให้เห็นถึงสายพันธุ์รถสปอร์ต พร้อมความน่าหลงใหลในความเป็นแบรนด์มอเตอร์สปอร์ตในงานมหกรรมยานยนต์ Beijing International Automotive Exhibition 2014 ที่ผ่านมา ภายในงานนี้ปอร์เช่เปิดตัวบ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) และเคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) สู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ทำให้ให้รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางสมรรถนะเหนือชั้นทั้ง 2 คันนี้ กลายมาเป็นอีกหนึ่งสมาชิกของครอบครัวจีทีเอส (GTS) จากปอร์เช่ ไม่เพียงเท่านี้ยังได้นำปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) ที่เป็นรถยนต์ยอดนิยมในขณะนี้ มาจัดแสดงโชว์ด้วยเช่นกัน เสริมทัพด้วยตำนานรถมอเตอร์สปอร์ตของแบรนด์ปอร์เช่ นั่นคือ 919 ไฮบริด (9119 Hybrid) และ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) รวมถึงนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่าง 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) และ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) สุดคลาสสิค การจัดแสดงโชว์ตำนานต่างๆ ของรถยนต์ปอร์เช่ ในงานครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความฝัน และความน่าหลงใหลของรถสปอร์ตได้อย่างชัดเจน
“ครึ่งทศวรรษที่แล้ว ปอร์เช่สร้างจีทีเอส (GTS) เป็นครั้งแรก และได้รับการขนานนามว่า คาร์เรร่า จีทีเอส (Carrera GTS) ซึ่งกลายมาเป็นตำนานที่โด่งดัง และในวันนี้เรามีความยินดีที่จะนำเสนอตัวอักษร G, T, S ที่มาจากคำว่า Gran Turismo Sport ให้กับรุ่นบ็อกซเตอร์ (Boxster) และรุ่นเคย์แมน (Cayman) ของเราเป็นครั้งแรก หัวใจหลักของแบรนด์ปอร์เช่คือ รถสปอร์ต 2 ประตู ซึ่งเป็นพื้นฐานให้เราสร้างรถรุ่นอื่นๆ ขึ้นมา ด้วยรถสปอร์ต จีทีเอส (GTS) ใหม่ล่าสุดนี้เอง ที่จะทำให้เราเน้นกลับไปที่แหล่งกำเนิดของปอร์เช่อีกครั้ง” Matthias Mueller ประธานบริหารของปอร์เช่กล่าวในงานแถลงข่าว
แกรน ทัวริสโม่ สปอร์ต (Gran Turismo Sport) – GTS คือรุ่นรถที่มีสมรรถนะที่เหนือชั้น มีประสิทธิภาพที่คล่องตัวสูงรวมถึงมีรูปแบบความเป็นสปอร์ตตามแบบฉบับสายพันธุ์ปอร์เช่ทุกประการ บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) และเคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) คือรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางที่มีพละกำลังและรวดเร็วที่สุด อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่แสดงให้เห็นถึงคำว่า GTS ได้อย่างชัดเจน เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณความเป็นรถสปอร์ตจากปอร์เช่อย่างแท้จริง ผสมผสานประสิทธิภาพที่คล่องตัวสูงเข้าไว้กับการขับขี่ที่สะดวกสบาย เครื่องยนต์ของทั้ง 2 รุ่น มาในรูปแบบ 6 สูบเรียงนอน ขนาด 3.4 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์จากรุ่นบ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S) และ เคย์แมน เอส (Cayman S) ในรุ่น บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) เครื่องยนต์มีพละกำลังสูงสุดที่ 330 แรงม้า (243 กิโลวัตต์) ส่วนรุ่นเคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) มีพละกำลังเครื่องยนต์ที่ 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) แพคเกจ Sport Chrono และระบบเกียร์อัตโนมัติ Porsche Doppelkupplung (PDK) ได้รับการติดตั้งมาเป็นระบบมาตรฐานให้กับทั้ง 2 รุ่น เพื่อเพิ่มความเป็นสปอร์ตที่มากขึ้น อุปกรณ์เสริม Sport Plus สามารถเปิดการใช้งานได้อย่างง่ายเพียงแค่สัมผัส ส่งผลให้ บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) มีพละกำลังเครื่องยนต์ที่เหนือชั้น โดยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 4.7 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 279 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนรุ่นเคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 283 กิโลเมตร/ชั่วโมง เลยทีเดียว
มาคันน์ (Macan) ใหม่ล่าสุด ได้เปิดตัวสู่สายตาสาธารณชนอย่างเป็นทางการในงาน Auto China 2014 และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของปอร์เช่ที่สามารถจัดการกับความท้าทายของคำว่าขีดจำกัดในโลกรถสปอร์ตได้ แนวคิดการออกแบบที่คลาสสิคของรถ เส้นสายที่สปอร์ต ต่างแสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นของรถสปอร์ตจากปอร์เช่ และสายพันธุ์ปอร์เช่ที่ชัดเจน ตัวรถทำจากโครงสร้างน้ำหนักเบาที่สร้างประสิทธิภาพที่คล่องตัว จุดเด่นของรถคือพละกำลังและเครื่องยนต์ 4 สูบที่มาพร้อมกับตัว Turbocharging เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 237 แรงม้า (174 กิโลวัตต์) อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงตามรูปแบบ NEDC ของมาคันน์คือ 7.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ทำให้ มาคันน์ (Macan) กลายมาเป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์ แบบคอมแพ็ค (Compact SUV) ที่ประหยัดที่สุดในคลาสรถรุ่นนี้ อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 6.9 วินาทีเท่านั้น ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 223 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แบรนด์รถสปอร์ตเกิดขึ้นเพื่อลงสนามแข่ง และออกมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในมอเตอร์สปอร์ต ปอร์เช่จึงตัดสินใจกลับเข้าสู่สนามแข่งเลอมังต์ (Le Mans) อีกครั้งด้วยรถ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) หลังจากถอนตัวออกจากการแข่งขันเลอมังต์ (Le Mans) เมื่อ 16 ปีที่แล้ว ภายใต้แนวคิดของคำว่า “Intelligent Performance” และใช้เทคโนโลยีชั้นนำจากปอร์เช่ในการพัฒนา โดยรถยนต์ต้นแบบไฮบริดที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมครั้งนี้ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2014 (Geneva Motor Show 2014) และจะทำการกลับเข้าสู่การแข่งขัน World Endurance Championships 2014 (WEC) อีกด้วย 919 ไฮบริด (919 Hybrid) เต็มไปด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเหลือเชื่อ เสมือนเป็นตัวแทนของรถสปอร์ตในอนาคต ปอร์เช่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) จะเข้าร่วมกับ 919 ไฮบริด (919 Hybrid) ใน 8 รอบสนามของ WEC Series และจะลงแข่งขันเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้กับปอร์เช่ต่อไป และรถแข่งทั้ง 2 รุ่นนี้ ได้นำมาจัดแสดงโชว์ในงาน Auto China 2014 นี้ด้วยเช่นกัน
ปอร์เช่นำเสนอ 911 ทาร์ก้า (Targa) ที่มาพร้อมกับโครงสร้างที่แข็งแรงด้วย roll-over bar ที่นำกลับมาอีกครั้ง ตามแบบฉบับแนวคิดความแข็งแกร่งของตัวรถ 911 ดั้งเดิม มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และติดตั้งระบบ Porsche Traction Management (PTM) มาเป็นระบบมาตรฐาน เพื่อให้การกระจายพละกำลังเครื่องยนต์ที่แม่นยำระหว่างล้อหลังหรือขณะขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกทั้งยังผสมผสานการขับขี่ที่สนุกสนานของปอร์เช่เข้าไว้กับสมรรถนะของรถในการขับขี่ การเกาะถนน และการทรงตัวที่ดีเยี่ยม
การนำเสนอและจัดแสดงโชว์รถยนต์ปอร์เช่ในงาน Auto China 2014 คือข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าปอร์เช่ไม่เคยหยุดฝัน ด้วยการนำความเป็นสปอร์ตที่สมบูรณ์แบบรวมถึงความสมดุลระหว่างตำนานและการเปลี่ยนแปลงเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างดีเยี่ยม สร้างความน่าหลงใหลต่อการลงสนามแข่ง และการชื่นชมวัฒนธรรมความเป็นรถสปอร์ตสำหรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี แบรนด์ปอร์เช่ยังเป็นผู้นำด้านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ของโลกอนาคตมาใช้ผสมผสานเข้ากับการออกแบบที่คลาสสิคสรรสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ปอร์เช่
รุ่นปอร์เช่ที่จัดแสดงโชว์ในงาน Auto China 2014:
บ็อกซเตอร์ จีทีเอส (Boxster GTS) - เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
เคย์แมน จีทีเอส (Cayman GTS) - เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
มาคันน์ (Macan) - เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
919 ไฮบริด (919 Hybrid) - เปิดตัวในเอเซียอย่างเป็นทางการ
911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) - เปิดตัวในเอเซียอย่างเป็นทางการ
มาคันน์ เอส (Macan S) - เปิดตัวในเอเซียอย่างเป็นทางการ
911 ทาร์ก้า 4 เอส (911 Targa 4S) - เปิดตัวในเอเซียอย่างเป็นทางการ
918 สไปเดอร์ (918 Spyder)
คาเยนน์ แพลทินัม อิดิชั่น (Cayenne Platinum Edition)
911 เทอร์โบ คูเป้ (911 Turbo Coupe)
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่มีศูนย์บริการมาตรฐานและทีมวิศวกรที่มากประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงาน ปอร์เช่ประเทศเยอรมนีโดยตรงพร้อมการันตีด้วยการรับรองและผ่านการทดสอบจากโรงงานในระดับเหรียญทอง (Zertifizierter Porsche Techniker – Gold Expert) คอยให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน ตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ” หรือ “AAS Looking after YOU and your CAR” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-103 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.porsche.co.th