กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน
สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน โดยนางภรณี ทองเย็น อุปนายก เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุน ปี 2557 โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นปี 57 ที่เฉลี่ย 1,473 จุด ใกล้เคียงคาดการณ์เดิมในช่วงต้นปีนี้ (1,472 จุด) แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่สำรวจเมื่อปลายเดือนธันวาคม 56 ซึ่งอยู่ที่เฉลี่ย 1,534 จุด โดยปัจจัยเสี่ยงหลักยังใกล้เคียงกับการสำรวจครั้งก่อน (ปลายเดือนธันวาคม 56) คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย และความเสี่ยงทางการเมืองไทยในช่วงไตรมาสสอง โดยปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้คือ การปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปี 57 ในขณะที่การสำรวจครั้งก่อนมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องการชะลอ/เลิก QE ของสหรัฐฯ ด้วย
สำหรับประเด็นบวก ได้แก่ การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัว (เหมือนกับการสำรวจครั้งที่แล้ว) การที่ต่างชาติจะกลับมาซื้อหุ้นไทย และคาดว่าสถานการณ์การเมืองจะคลี่คลายในครึ่งปีหลัง ซึ่งการสำรวจครั้งก่อนมีประเด็นบวกเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ปี 57 ลงเหลือเฉลี่ย 2.4% จากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.9% ในขณะที่คาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ปี 57 จะเติบโตเฉลี่ย 11.0% ปรับลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 12.1%
อนึ่ง นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังประเมินว่าสหรัฐฯ จะทยอยตัดลด QE จนหมดภายในสิ้นปี 2557 และจะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่เกินไตรมาสสามปี 2558
นอกจากนี้ ราคาทองคำสิ้นปี 57 คาดว่าจะอยู่ที่ 20,300 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 20,049 บาทต่อบาททองคำ
คำแนะนำแก่นักลงทุน
- เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีเงินปันผลสม่ำเสมอ เน้นหุ้นที่ผลประกอบการยังโตได้ดีแม้มีปัญหาทางการเมือง ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ หรืออิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยทยอยสะสมในจังหวะที่ตลาดปรับตัวลดลงจากผลกระทบของการเมือง
- กำหนดวัตถุประสงค์การลงทุนของตนเองอย่างชัดเจน จัดสรรพอร์ตการลงทุนตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง มีการกระจายการลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยง
- ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานการณ์การเมือง อ่านบทวิเคราะห์จากหลาย ๆ แหล่งอย่างสม่ำเสมอ ใช้สติในการลงทุน ไม่หวั่นไหวตามกระแส
หุ้นแนะนำ (เรียงตามลำดับตัวอักษร)
หุ้นเด่น
หุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำให้ลงทุนตรงกันหลายสำนักวิจัย
ได้แก่ INTUCH, IVL, KBANK, PTTGC, SCC, SPALI, TTA เป็นต้น