กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--IR network
บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) โชว์งบไตรมาส 1/57 สุดหรู กวาดรายได้ 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 121% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลกำไรพุ่งกระฉูด แตะ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,504% หรือเพิ่มขึ้น 16 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน CEO “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15% ตามเป้า ยอดขายทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น อีกทั้งไตรมาส 2/57 ยังมีงานผลิตรถพ่วงตู้แห้งให้กับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ อีกมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ทำให้มีงานที่รอส่งมอบอยู่ในมือทั้งสิ้นปีกว่า 1 พันล้านบาท
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (CHO) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2557 มีรายได้รวมอยู่ที่ 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 195 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 121% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีผลกําไรสุทธิอยู่ที่ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,504% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากบริษัทมียอดขายตามสัญญาผลิตในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยอดขายในประเทศก็เพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีการลงทุนใช้รถพ่วงตู้แห้ง รถกึ่งพ่วงเพื่อกระจายสินค้าที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน เช่นอาหาร เนื้อสัตว์ ผักสด ต่าง ๆ ไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
“ผลประกอบการในไตรมาส 1/2557 เติบโตอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นขยายตลาดต่างประเทศเข้าไปยังประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ที่มีความต้องการใช้รถลำเลียงอาหารสำหรับครัวสายการบิน และวางกลยุทธ์ในประเทศที่เน้นการผลิตและบริการอะไหล่ซ่อมบำรุง ไปยังกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ธุรกิจเครื่องดื่ม ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีความจำเป็นที่ต้องกระจายสินค้าที่ทุกคนต้องกิน ต้องใช้ ทุกวัน ไปตามภูมิภาคทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องด้วยเช่นกัน” นายสุรเดช กล่าว
นายสุรเดช กล่าวว่า มั่นใจว่าแผนการดำเนินงานปี 2557 จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากมีงานในมือที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog) อยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาท และได้ลงนามเซ็นสัญญารับงานเพิ่มกับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ให้บริษัทเป็นผู้ผลิตรถพ่วงตู้แห้ง (Dry van Semi-Trailer) ตามสัญญาอีก มูลค่าราว 300 ล้านบาท ซึ่งช่วยหนุนให้งานในมือ (backlog) เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ประมาณ 60 %
“แม้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว แต่บริษัทเล็งเห็นว่างานโลจิสติกส์ในกลุ่มประเภทอาหาร เนื้อสัตว์ เครื่องดื่ม และพัสดุต่าง ๆ มีความสำคัญมาก เพราะทุกคนต้องกิน ต้องใช้ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม จึงได้มุ่งเน้นขยายตลาดทั้งใน และต่างประเทศ ด้วยงานบริการที่มีระบบการจัดการมาตรฐานสูง รวมทั้งทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความพอใจของลูกค้าอย่างไม่หยุด ส่งผลทำให้บริษัทได้รับงานเข้าอย่างต่อเนื่อง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเสมอมา” นายสุรเดช กล่าวในที่สุด