กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--Brandwealth
บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เผยงบไตรมาส 1 เติบโตขึ้น โดยรายได้รวมโตเพิ่มขึ้น 47% กำไรสุทธิโต 30% ตามพอร์ทสินเชื่อและสาขาที่ขยาย ตัวต่อเนื่อง
นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD หนึ่งในผู้นำให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถและสินเชื่อที่มีหลักประกันซึ่งเป็นที่รู้จักมานานกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในไตรมาส 1 ปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 586 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จาก 398 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว กำไรขสุทธิเพิ่มขึ้น 30% เป็น 186 ล้านบาท จาก 143 ล้านบาท ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 49% และ มีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) สูงถึง 32% ในไตรมาสนี้ โดยสาเหตุสำคัญของการขยายตัวของ SAWAD มาจากมูลค่า พอร์ทสินเชื่อลูกหนี้ที่เติบโตขี้น 42% จาก 4,101 ล้านบาท เป็น 5,835 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,734 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันสามารถเพิ่มจำนวนสาขาเป็นประมาณ 650 สาขาในปัจจุบัน ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน SAWAD เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจให้สินเชื่อแบบมีหลักประกันโดยมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ที่มีแบรนด์ “มีบ้านมีรถ เงินสดทันใจ” เป็นที่รู้จักทั่วไป มีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ที่คาดว่า จะมีสาขาประมาณ 700 สาขาภายในปีนี้
บริษัทฯได้ประโยชน์จากสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองในปัจจุบัน เนื่องจากมีลูกค้าจำนวนมาก ทั่วประเทศที่ต้องการใช้เงินด่วน ซึ่ง SAWAD มีการให้บริการที่คล่องตัวสูงสามารถอนุมัติเงินกู้รวดเร็ว ภายใน 30 นาที อีกทั้งมีสาขาอยู่ตามชุมชนมากกว่าเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ได้รับความนิยม จากกลุ่มลูกค้า ในชุมชนอย่างสูง ขณะเดียวกัน SAWAD สามารถบริหารธุรกิจ และ พอร์ทสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีอัตราหนี้เสีย (NPL) ในระดับ 4.5% ในขณะที่มีการตั้งสำรองสำหรับหนี้สูญ 3.8% และ หลังจากที่ได้รับเงินจาก IPO แล้ว อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ปรับลดลงมาอย่างมีนัยยะ สำคัญที่ระดับ 1% เท่านั้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุน (IPO) ประมาณ 1,725 ล้านบาท ไปขยายธุรกิจ เพิ่มจำนวนสาขา และ ชำระหนี้ธนาคาร ทำให้นอกจากจะสามารถขยายวงเงินสินเชื่อ ได้เพิ่มขึ้นอย่างสูงยังช่วยลดต้นทุนทางการเงินอย่างมีนัยยะสำคัญซึ่งจะช่วยให้ บริษัทฯสามารถ เติบโตได้ตามแผนธุรกิจ ซึ่งคาดว่า ภายใน 5 ปี คาดว่าจะมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาทได้