กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--work link da Agency
งานบริหารโครงการอยู่ระหว่างเจรจาผู้ประกอบการ กัมพูชา พม่า เตรียมคว้าโปรเจคใหญ่ 1 งานตามเป้า ขณะที่ภาคก่อสร้างในประเทศไม่คึกคัก เบนเข็มรับงานขนาดกลางและเล็ก มั่นใจทั้งปีรายได้โต 10% โชว์ผลงานไตรมาสแรกกำไร 8.03 ล้านบาท โต 216.14% จากไตรมาส 1 ปี 56
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้าง และงานออกแบบด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนรุกงานด้านออกแบบ ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มประเทศแอฟริกามากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่เคยมีการร่วมงานและมีการเจรจาเกี่ยวกับการดำเนินโครงการต่างๆมาแล้ว โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง PPS Design และ Swan & Maclaren Thailand ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจะเริ่มมีงานเข้ามาอย่างน้อย 2 โครงการ
ส่วนงานด้านบริหารโครงการในช่วงไตรมาส 2 บริษัทได้เข้ารับงานบริหารโครงการต่อเนื่องในประเทศลาว และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการในประเทศกัมพูชา พม่า เกี่ยวกับการดำเนินโครงการก่อสร้าง ซึ่ง PPS ได้เสนองานเข้าไปแบบครบวงจรโดยเริ่มตั้งแต่งานออกแบบไปจนถึงบริหารงานก่อสร้าง ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเข้ารับงานบริหารโครงการก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างน้อยจำนวน 1 งานภายในปีนี้
“ในช่วงที่เหลือของปี PPS มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยเน้นการรักษาระดับต้นทุนในการทำงานให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ตลอดจนขยายงานสู่งานด้านออกแบบ งานบริหารโครงการในประเทศเพื่อนบ้านที่มีมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง ขณะที่งานบริหารโครงการในประเทศปีนี้มีแนวโน้มไม่คึกคักมากนัก
เนื่องจากโครงการขนาดใหญ่มีการชะลอตัวจากความไม่เเน่นอนทางการเมือง ซึ่งบริษัทได้มีการปรับแนวทางการดำเนินงานไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเน้นการเข้ารับงานของภาคธุรกิจที่ยังลงทุนต่อเนื่อง งานปรับปรุงโครงการเก่า ตลอดจนงานโครงการก่อสร้างโครงกลางขนาดกลางและขนาดเล็ก คาดว่าจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว จะทำให้รายได้รวมของบริษัทในปีนี้มีการเติบโตอยู่ที่ 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้”นายธัช กล่าว
สำหรับผลประกอบการของ PPS งวดไตรมาส 1/57 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 73.16 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.75 ล้านบาท หรือ 15.38% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 63.41 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 8.03 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.49 ล้านบาท หรือ 216.14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 2.54 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากงานบริหารโครงการมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 56 อีกทั้งบริษัทยังมีการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน