กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
ไมโครซอฟท์ ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นด้านบริหารจัดการทรัพยากรสำหรับองค์กร หรือ ERP (Enterprise Resource Planning) แนะนำโซลูชั่น ERP รุ่นล่าสุด Microsoft Dynamics AX 2012 R3 ในประเทศไทย หลังเปิดตัวสู่ตลาดทั่วโลกเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
Microsoft Dynamics AX 2012 R3 ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างให้ธุรกิจสามารถปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดีเลิศ และเติบโตไปตามทิศทางที่วางไว้ ด้วยคุณสมบัติใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการจัดการคลังสินค้าและระบบขนส่งสินค้า ซึ่งทำให้ Microsoft Dynamics AX 2012 R3 สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกในทุกๆ ขั้นตอนของเครือข่ายโลจิสติกส์ ส่วนบริการ Lifecycle Services รุ่นล่าสุดก็ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถวางแผนการใช้งาน Microsoft Dynamics AX ได้อย่างสะดวกสบายและเป็นระบบยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ระบบงานที่ล้ำยุค ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว และง่ายต่อการสนับสนุนในภายหลัง
“ทุกวันนี้ เทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราติดต่อประสานงานซึ่งกันและกันไปอย่างสิ้นเชิง” มร.ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “Microsoft Dynamics AX 2012 R3 เป็นโซลูชั่นเวอร์ชั่นล่าสุดที่จะช่วยให้องค์กรในประเทศไทยสามารถใช้งานอุปกรณ์พกพาและเทคโนโลยีคลาวด์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่าที่เคย จนนำไปสู่การประสานงานอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับลูกค้า และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการทำงาน ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “We Make 70 Million Lives Better” ในการที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยเติบโตและก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยจะก้าวสู่ยุคเออีซีอย่างเต็มตัวในปี 2015 นี้”
ริคกี้ กังสเต็ด-ราสมุสเซน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ Microsoft Dynamics AX ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “Microsoft Dynamics AX 2012 R3 ยังรองรับการพัฒนาแอพพลิเคชันและบริการรูปแบบใหม่ๆ สำหรับการใช้งานกับทัชสกรีนและอุปกรณ์พกพา โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบหลักของ Microsoft Dynamics AX ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย โดย Microsoft Dynamics AX รุ่นล่าสุดนี้ มาพร้อมกับแอพล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการบันทึกข้อมูลด้านสายการผลิตบนอุปกรณ์ทัชสกรีนที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์”
ทั้งนี้ ลูกค้าและพันธมิตรของไมโครซอฟท์สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอพและคุณสมบัติสำหรับการใช้งานแบบพกพาได้ที่ http://blogs.msdn.com/b/dax/archive/2014/03/03/microsoft-dynamics-ax-2012-r3-devices-and-services-framework.aspx
Microsoft Dynamics AX 2012 R3 สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจและตลาดใหม่ๆ ได้ทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติการทำงานบนระบบคลาวด์ Microsoft Azure ในรูปแบบ infrastructure-as-a-service ซึ่งทำให้องค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจของตนได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ในยามสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยธุรกิจที่สนใจในการใช้งาน Microsoft Dynamics AX แบบคลาวด์ สามารถเลือกใช้ระบบคลาวด์สำเร็จรูปจาก Microsoft Azure ได้ทันที ประหยัดเวลาในการพัฒนาและทดสอบระบบ และช่วยให้องค์กรสามารถเดินหน้าทำงานได้ทันที
นอกจากนี้ Microsoft Azure ยังเป็นเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังบริการ Lifecycle Services ที่ช่วยให้องค์กรที่ใช้งาน Microsoft Dynamics AX 2012 R3 สามารถคาดการณ์ผลที่จะเกิดจากการวางระบบในองค์กรได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบให้เข้ากับสถานการณ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ในช่วงทดลองให้บริการ พบว่า Lifecycle Services สามารถช่วยให้ลูกค้าลดเวลาที่เสียไปกับการออกแบบ พัฒนา และใช้งานแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจของตน เช่นในกรณีที่ลูกค้าต้องการบริการสนับสนุนเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งพบว่าลูกค้ากว่า 65% สามารถแก้ปัญหาและตอบข้อสงสัยของตนเองได้ผ่านทางบริการดังกล่าว
เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงคุณประโยชน์ที่ Microsoft Dynamics AX สามารถมอบให้กับภาคธุรกิจได้ ไมโครซอฟท์จึงได้ร่วมมือกับบริษัทที่ปรึกษา ฟอร์เรสเตอร์ คอนซัลติง เพื่อทำการวิจัย TEI (Total Economic Impact) โดยจากการสำรวจเก็บข้อมูลจากลูกค้า พบว่าองค์กรที่มีโครงสร้างการบริหารงานแบบผสม และทำการลงทุนวางระบบ Microsoft Dynamics AX 2012 จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่อัตราสูงถึง 92% โดยผ่านจุดคุ้มทุนได้ภายในเวลาเพียง 21 เดือน และเป็นผลให้องค์กรได้รับผลประโยชน์ทางการเงินเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้นกว่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 194 ล้านบาท)[1]
Microsoft Dynamics AX 2012 R3 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในการสร้างสรรค์ระบบ ERP แห่งอนาคต ที่ใช้ประโยชน์จากศักยภาพของแอพพลิเคชั่น อุปกรณ์ และบริการคลาวด์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังมีการพัฒนาด้านตรรกะทางธุรกิจและโครงสร้างข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อปูทางไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ในอนาคต อันมีพื้นฐานมาจากการใช้งานจริง ทั้งหมดนี้ทำให้ Microsoft Dynamics AX 2012 R3 ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรธุรกิจชั้นนำทั่วโลก รวมไปถึง อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์ ศูนย์การค้าเฟอร์นิเจอร์และของใช้ตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ผู้สนใจสามารถติดต่อใช้บริการหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับ Microsoft Dynamics AX 2012 R3 ได้ที่ http://pinpoint.microsoft.com/th-TH/partnercenter หรือ http://www.microsoft.com/en-us/dynamics/erp.aspx หรือชมงานเปิดตัวย้อนหลังได้ที่ https://presentations.inxpo.com/Shows/microsoft/4-10-14/Registration/Registration.html?AffiliateKey=21572&AffiliateData=ERPpageข้อมูลเกี่ยวกับไมโครซอฟท์
บริษัท ไมโครซอฟท์ (NASDAQ “MSFT”) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 บริษัทฯ เสนอซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้คนไทย ตลอดจนแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นที่ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับได้ตั้งแต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปจนถึงเครื่องขนาดใหญ่ระดับเมนเฟรม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) http://www.microsoft.com/thailand
ไมโครซอฟท์เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ ไมโครซอฟท์ คอร์ป ประเทศสหรัฐอเมริกา และหรือประเทศอื่นๆ ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่มีการกล่าวถึงในเอกสารชุดนี้อาจจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของนั้นๆ
[1] ข้อมูลจากงานวิจัย Total Economic Impact ของโซลูชั่น Microsoft Dynamics AX 2012 ซึ่งจัดทำให้กับไมโครซอฟท์โดยบริษัทที่ปรึกษา ฟอร์เรสเตอร์ คอนซัลติง ในเดือนธันวาคม 2556