กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
ผู้ตรวจการแผ่นดินร่วมกับนายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จัดงาน “ผู้ตรวจการแผ่นดินร่วมกับจังหวัดเคลื่อนที่และสถานีประชาชนจังหวัดชลบุรี” ในวันพุธที่ 21 พฤษภาคม2557 ณ โรงเรียนบ้านเกาะไม้แหลม ตำบลมาบไผ่ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
ศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ร่วมกับจังหวัดชลบุรีและสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสลงพื้นที่จัดกิจกรรมใหญ่ ออกหน่วยบริการตลอดจนพบปะพี่น้องประชาชนและรับเรื่องร้องเรียนปัญหาทุกข์ร้อนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเร่งช่วยกันหาทางแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนเสียหาย โดยการดำเนินงานครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี รวมทั้งการมีส่วนร่วมของหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง
ศาสตราจารย์ศรีราชา กล่าวต่อว่า นอกจากการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว ยังได้นำรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ (Mobile Unit) ออกให้บริการปรึกษาปัญหาทางด้านกฎหมายและรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนตลอดทั้งวัน อีกทั้งจัดนิทรรศการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับบทบาท อำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการพิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนในกรณีการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องเรียนหรือประชาชนโดยไม่เป็นธรรม รวมทั้งตรวจสอบการละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายขององค์กรตามรัฐธรรมนูญและองค์กรในกระบวนการยุติธรรม ดำเนินการเกี่ยวกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งติดตาม ประเมินผล และจัดทำข้อเสนอแนะในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ รวมตลอดถึงข้อพิจารณาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในกรณีที่เห็นว่าจำเป็น
“ถ้าประชาชนไม่สะดวกมายื่นเรื่องร้องเรียนภายในงาน สามารถร้องเรียนที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินด้วยตนเองได้ ซึ่งการร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้นมีช่องทางอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งทางโทรศัพท์สายด่วน 1676 โทรฟรีทั่วประเทศ หรือร้องเรียนทางไปรษณีย์ ซึ่งจะต้องลงชื่อผู้ร้องเรียน ที่อยู่ โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ระบุชื่อผู้ถูกร้องเรียนและเหตุที่ร้องเรียน หากต้องการปกปิดชื่อผู้ร้องเรียนก็สามารถแจ้งปกปิดชื่อได้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินจะรักษาเป็นความลับอย่างเคร่งครัด โดยส่งไปรษณีย์ไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 เลขที่ 120 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 021419100 โทรสาร 021438341 หรือร้องเรียนทางอินเทอร์เน็ตที่ www.ombudsman.go.th รวมทั้งสามารถร้องเรียนผ่านเครือข่ายของผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) สำนักงานอัยการจังหวัดทั่วประเทศ และสภาทนายความและสำนักงานสาขาของสภาทนายความทั่วประเทศ หรือร้องเรียนผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้อีกด้วย”
ศาสตราจารย์ศรีราชา กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่สำคัญนอกจากผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว กิจกรรมในครั้งนี้ยังมีองค์กรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 อาทิ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี และสำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ออกให้บริการรับปรึกษาปัญหาข้อกฎหมายและให้ความรู้เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของแต่ละองค์กร อีกทั้งกิจกรรมมอบรถเข็นให้ผู้พิการและทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ส่วนหน่วยงานราชการต่างๆ ในจังหวัดชลบุรีก็ได้พร้อมใจกันมาออกหน่วยให้บริการพี่น้องประชาชนมากกว่า 70 หน่วย เช่น หน่วยบริการทำบัตรประชาชน บริการด้านการเงิน บริการตัดผมฟรี และบริการฝึกอาชีพต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งไม่เพียงเท่านี้ ยังได้รับความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสถ่ายทอดสดบรรยากาศจากพื้นที่อำเภอบ้านบึง และเปิดเวทีเสวนาสดเพื่อนำเสนอแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชน กรณีการลักลอบนำขยะพิษจากกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมนำไปทิ้งในพื้นที่สาธารณะและที่ดินเอกชน รวมทั้งปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำหรือลำคลองสาธารณะของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ตำบลมาบไผ่ อำเภอบ้านบึง และตำบลหนองรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี รวมทั้งของดีของเด่นจังหวัดชลบุรี ผ่านทางรายการ “สถานีประชาชน” สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เวลา 14.00 - 15.30 น. จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่อำเภอบ้านบึงและพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรมตลอดช่วงเช้าและช่วงบ่าย ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สาธารณะ ช่วยเหลือ ส่งเสริม และสร้างสรรค์สังคมไทยให้มีแต่ความร่มเย็นทั่วกันทุกพื้นที่ของประเทศ