กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--กรมควบคุมโรค
กรมควบคุมโรคเผยเหตุ...ที่ต้องเร่งฉีดป้องกัน “ไข้หวัดใหญ่” เร็วขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ปีนี้น่าห่วง ถือเป็นการระบาดที่มาเร็วและรุนแรงกว่าทุกปี ยังไม่ถึงครึ่งปีมีคนป่วยแล้วเกือบ 4 หมื่นราย ตายเกือบครึ่งร้อย เตรียมวัคซีน 3.4 ล้านโด๊ส เร่งฉีดป้องกันในกลุ่มเสี่ยง ย้ำ!!ผู้เป็นกลุ่มเสี่ยง จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเร็วขึ้น เพื่อให้มีผลทันต่อการป้องกันโรค ก่อนจะเข้าสู่ฤดูกาลระบาดใหญ่ของโรคในช่วงฤดูฝนนี้
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องเลื่อนเวลาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เร็วขึ้นกว่าทุกปี เนื่องจากปีนี้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยน่าห่วง เพราะการระบาดของโรคมาเร็ว และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากกว่าปีก่อนๆ ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ มีภูมิต้านทานโรคต่ำ จึงสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคหวัดไข้ใหญ่ได้ง่าย เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มีโอกาสที่อาการจะรุนแรงและมีภาวะแทรกซ้อนมากกว่าคนทั่วไป และอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ในระยะเวลาอันสั้น จากข้อมูลผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เฉพาะต้นปี 2557 นี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-12 พฤษภาคม 2557 มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว 34,697 ราย เสียชีวิต 49 ราย ถือเป็นการระบาดที่มาเร็วและรุนแรงกว่าทุกปี เชื้อไข้หวัดใหญ่ที่พบไม่ใช่เชื้อใหม่แต่เป็นสายพันธุ์ H1 N1 ที่เคยระบาดแล้ว แต่ที่มีคนป่วยและเสียชีวิตมากในปีนี้ อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อน ประกอบกับไข้หวัดใหญ่ไม่มีการระบาดหนักมานาน ผู้ป่วยจึงชะล่าใจคิดว่าตัวเองเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาไม่คิดว่าจะป่วยหนัก จึงไปถึงมือหมอช้า กว่าจะถึงมือหมออาการก็หนักแล้ว ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
การเลื่อนกำหนดเวลาในการฉีดวัคซีนเร็วขึ้นจะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ทันต่อสถานการณ์หากเกิดการระบาดขึ้น ช่วยลดการเจ็บป่วยภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและการเสียชีวิต โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ไว้ 3 ล้าน 4 แสนโด๊ส เพื่อให้บริการฟรี!! แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ 1.ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป 2.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป 3. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 4. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอดปอดอุดกั้น หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด 5.บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและอาจเป็นผู้แพร่โรคต่อไปยังผู้อื่นได้พร้อมๆกัน 6. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ติดเชื้อ HIV 7.คนที่อ้วนที่น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กก. หรือ BMI มากกว่า 35 กก.ต่อตารางเมตร
นายแพทย์โสภณ ได้บอกถึงความคืบหน้าในการมาขอรับบริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ว่าขณะนี้ (สัปดาห์แรกตั้งแต่ 1 พฤษภาคม - 19 พฤษภาคม 2557) มีประชาชนมารับบริการฉีดวัคซีนแล้ว 30,470 ราย จังหวัดที่มีการรับบริการวัคซีนสูงสุด คือจังหวัดปทุมธานี 4,324 ราย รองลงมา กรุงเทพฯ 1,876 ราย ชลบุรี 1,840 ราย ตามลำดับ ส่วนใหญ่ เป็นบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข โดยคาดว่าจะมีประชาชนมารับบริการจริงๆมากกว่านี้ เพราะยังมีข้อมูลบางส่วนที่หน่วยบริการยังไม่ได้ลงบันทึกไว้
“ขอย้ำว่าประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ต้องรีบไปรับการฉีดวัคซีนแต่เนิ่นๆ เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคไว้ล่วงหน้า ให้วัคซีนมีผลทันต่อการป้องกันและช่วยให้ปลอดภัยจากโรค ก่อนจะเข้าสู่ฤดูกาลระบาดใหญ่ในช่วงฤดูฝนซึ่งจะเริ่มประมาณเดือน กรกฎาคม- กันยายน โดยสามารถขอรับบริการได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ที่โรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ ในพื้นที่ที่ท่านอาศัยอยู่ (ตามสิทธิของ สปสช.) และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐทุกแห่งที่อยู่ใกล้บ้าน หรือสอบถามได้ที่สายด่วน สปสช. โทร.1330 หรือที่สายด่วนกรมควบคุมโรค หมายเลข 1422” นายแพทย์โสภณ กล่าวปิดท้าย