ไทยสแกนดิค-สตีลแถลงข่าว

ข่าวทั่วไป Tuesday October 27, 1998 13:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--27 ต.ค.--บ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์
บริษัท ไทยสแกนดิค-สตีล ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ประกาศหยุดการดำเนินงานชั่วคราว เนื่องจากผลกระทบด้านการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กรูปพรรณ ทั้งนี้จะเป็นผลเสี่ยงต่อการเลิกจ้างพนักงานนับร้อยตำแหน่ง
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) แถลงในเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า บริษัท ไทยสแกนดิค-สตีล ซึ่งเป็นบริษัทย่อยและเป็นผู้ผลิตโครงเหล็กเสาไฟฟ้าแรงสูง อยู่ในภาวะจำยอมที่จะต้องหยุดการดำเนินงานชั่วคราว เนื่องจากกฎระเบียบของราชการเข้มงวดกับการนำเข้าเหล็กรูปพรรณ
นายเดวิด นิโคล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าวให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า
"ธุรกิจของบริษัท ไทยสแกนดิค-สตีลหยุดชะงักทั้ง ๆ ที่มีคำสั่งซื้ออยู่ในมือเป็นจำนวนมาก เหล็กเป็นพัน ๆ ตันกลับไม่ได้รับอนุมัติให้นำมาใช้ในการผลิต องค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ได้รับทราบปัญหารวมทั้งบริษัทได้ยื่นคำร้องไปยังส่วนราชการแต่ไม่มีผลใด ๆ ทั้งสิ้น บริษัทจะไม่ละความพยายามโดยได้ดำเนินการเพื่อให้เรื่องนี้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สาเหตุของการไม่อนุมัติในครั้งนี้ก็เพื่อจะปกป้องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ"
นายเอนนิโอ คาสเทลลี่ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ไทยสแกนดิค-สตีล ได้ชี้แจงเพิ่มเติมดังนี้ "เมื่อเดือนพฤษภาคมของปีนี้ รัฐบาลได้ออกพระราชบัญญัติโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะคุ้มครองอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศ โดยจำกัดมาตรฐานและขึ้นภาษีศุลกากรร้อยละ 10 สำหรับเหล็กรูปพรรณนำเข้าที่จะใช้ในการประกอบโครงสร้างภายในประเทศ โชคไม่ดีที่พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้มองข้ามความเป็นจริง และปัจจุบันได้กีดกันการนำเข้าเหล็กรูปพรรณ โดยที่รูปแบบและคุณภาพของเหล็กตามที่ลูกค้าของบริษัท เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กำหนด ยังไม่สามารถผลิตได้ในประเทศไทย
นอกจากนี้ ชิ้นส่วนเหล็กรูปพรรณจำนวนน้อยที่บริษัทใช้ประกอบ ซึ่งสามารถผลิตได้ภายในประเทศแต่กลับมีราคาสูงกว่าร้อยละ 40 ของราคามาตรฐานสากลและราคาที่ผู้ผลิตเดียวกันนี้ส่งออกต่างประเทศ
บริษัทเผชิญกับเงื่อนไขทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง ในระยะสั้นบริษัทต้องหยุดกิจการชั่วคราวเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เหล็กนำเข้าที่ได้เสียภาษีศุลกากรและค่าใช้จ่ายอื่นแล้ว ทั้งนี้ เพื่อจะนำมาติดตั้งในโครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูงขนาด 500 กิโลวัตต์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่มีเหตุผลอย่างยิ่ง การที่จะให้กิจการของบริษัทอยู่รอดในระยะสั้นบริษัทจะต้องประสบกับปัญหาจากคู่แข่งคือผลิตภัณฑ์เสาโครงเหล็กไฟฟ้าแรงสูงสำเร็จรูปจากประเทศอื่น เช่น อินเดียและจีน ที่กล่าวเช่นนี้ก็เนื่องจากอัตราภาษีศุลกากรของเสาโครงเหล็กสำเร็จรูปเสียเพียงร้อยละ 5 ขณะที่ภาษีศุลกากรของชิ้นส่วนนำเข้าสำหรับการประกอบในประเทศสำหรับเหล็กเสียที่ร้อยละ 10 หากชุปสังกะสี ร้อยละ 11 และร้อยละ 22 สำหรับสลักเกลียวและแป้นเกลียว ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะมีผลให้คนตกงานในประเทศเพิ่มขึ้น"
นายเดวิด นิโคล กล่าวเสริมว่า
"เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ให้การสนับสนุนบริษัท ไทยสแกนดิค-สตีล มาเป็นเวลาหลายปีที่บริษัทประสบภาวะยากลำบาก เมื่อเร็ว ๆ นี้ เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ได้ให้การช่วยเหลือที่จำเป็นแก่บริษัท ไทยสแกนดิค-สตีล เพื่อให้สามารถดำเนินงานตามสัญญาให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ทั้งที่มีผลขาดทุนเนื่องจากได้ทำสัญญาไว้กับลูกค้าก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์ค่าเงินบาทลอยตัว การดำเนินการดังกล่าวก็เพื่อรักษาชื่อเสียงที่ดีของบริษัทและเป็นการช่วยเหลือลูกค้า เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ให้บรรลุผลสำเร็จต่อไป
โชคไม่ดีที่ความพยายามทั้งปวงได้สูญเปล่าเนื่องมาจากความยุ่งยากของกฎระเบียบในปัจจุบันทำให้การดำเนินงานต้องสะดุดลง หากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว (ภายในวันสองวันไม่ใช่เป็นอาทิตย์ ๆ) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและกระทรวงอุตสาหกรรม บริษัท ไทยสแกนดิค-สตีล จะต้องปิดกิจการถาวร ทั้งนี้ ต้นทุนเงินสดโดยตรงของการปิดกิจการจะไม่ส่งผลต่อเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ มากนัก ถึงแม้ว่าผลของการสำรองความเสียหายจะทำให้มูลค่าของสินทรัพย์ของบริษัทน้อยลงก็ตาม แต่สิ่งที่เสียหายที่สุดในการปิดกิจการครั้งนี้คือจะทำให้คนตกงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก"--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ