กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--สหการประมูล
บมจ.สหการประมูลเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 57 ชี้ยอดขายรถยนต์มือสองและบริการอื่น ๆ เติบโต 65.46% มีรายได้สุทธิ 162.31. ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมาพบว่ากำไรเพิ่มขึ้น 452.59% ยืนยันรถยึดจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงปลายปี 57 เตรียมจัดประมูลทรัพย์ NPA ในไตรมาส 4 หวังสร้างรายได้ทดแทนในช่วงที่ยอดขายได้รับผลกระทบในช่วงที่รถใหม่ออกแคมเปญกระตุ้นยอดขายในงานมหกรรมยานยนต์
นายบูรณิศ ยุกตะนันทน์ หัวหน้าสำนักงานกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2557 ที่ผ่านมาว่า ตลาดประมูลรถยนต์มือสองยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากความต้องการซื้อของลูกค้ายังคงมีอยู่ตลอดเวลาแม้เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะซบเซาก็ตาม เห็นได้จากรายได้จากการประมูลขายรถยนต์มือสองและบริการอื่น ๆ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้จำนวน 162.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2556 จำนวน 64.22 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.46 ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 46.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิ 8.41 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิ 452.59 %
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ บมจ.สหการประมูลมีผลกำไรเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา เพราะจำนวนรถยึดจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 1 และมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ของปีที่ 2556 พบว่าจำนวนรถที่เข้าสู่กระบวนการประมูลโตขึ้นอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มว่าจำนวนรถมือสองจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 3 จึงสามารถประเมินได้ว่าในช่วง 9 เดือนของปีนี้ยังคงมีรถยึดทยอยเข้าสู่ตลาดประมูล ซึ่งจะส่งผลต่อการรับรู้รายได้ในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าตลาดน่าจะเปลี่ยนแปลงในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ถึงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เนื่องจากในช่วงปลายปีจะมีการจัดงานมหกรรมยานยนต์ และค่ายรถใหม่จะมีแคมเปญต่าง ๆ ออกมากระตุ้นยอดขาย ซึ่งอาจกระทบต่อยอดขายรถยนต์มือสองบ้าง ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะรุกตลาดประมูลอสังหาริมทรัพย์ในช่วงดังกล่าว โดยจะร่วมกับสถาบันการเงินต่าง ๆ จัดประมูลขายทรัพย์ NPA เพื่อสร้างรายได้ขึ้นมาทดแทน
นายบูรณิศกล่าวถึงการแข่งขันของธุรกิจประมูลรถยนต์มือสองว่า ปัจจุบัน บมจ.สหการประมูลยังคงเป็นผู้นำของธุรกิจนี้และครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 65% ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีนโยบายที่ชัดเจนในการพัฒนาการให้บริการใหม่ ๆ เพื่อต้องการทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุดและรักษาส่วนแบ่งการตลาดเอาไว้ รวมทั้งต้องการขยายธุรกิจในทุกด้านให้มีการเติบโต โดยการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อรายย่อย ทั้งในส่วนของผู้ซื้อรถยนต์มือสองและการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นของ AUCT มีแนวโน้มการลงทุนที่หวือหวามาก เพราะบางวันราคาปรับขึ้น 20-25% ขณะนี้ราคาอยู่ 4 บาทกว่า โดยในช่วงแรกที่เข้าตลาดราคาอยู่ที่ 2 บาท เห็นได้ว่ามีการเติบโตเกิน 100% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีผู้ซื้อรายย่อยสนใจหุ้นบริษัทมากขึ้น