กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--ไอเดียลิสท์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บี.เอฟ.เอ็ม.จับมือ “อาร์มสตรอง” ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลก รุกตลาดระบบฝ้าเพดานสำเร็จรูป และระบบฝ้าเพดานอะคูสติก ด้วยคุณสมบัติพิเศษช่วยป้องกันความเสียหายจากแผ่นดินไหว และเพลิงไหม้ ด้วยวัสดุรีไซเคิลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนท์ในกลุ่มอาคารสูงทั้งไทยและอาเซียน ตั้งเป้ายอดขายปี 2557 กว่า 100 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 300 ล้านบาทในปี 2559
นายกศิปัญญ์ ศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม. จำกัด ผู้นำอันดับหนึ่งของไทย ด้านวัสดุตกแต่งอาคารคุณภาพสูง แผ่นผนังคอมโพสิท ไส้กลางกันไฟ” (ALPOLIC®/fr) จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ปี 2557 บริษัทฯ วางแผนรุกตลาดวัสดุตกแต่งอาคารระดับไฮเอนท์อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับ บริษัท อาร์มสตรอง เวิลด์ อินดัสทรีส์ อินคอร์ปอเรท จำกัด ผู้นำระบบฝ้าเพดานสำเร็จรูปอันดับ 1 ของโลก จากสหรัฐอเมริกา นำระบบฝ้าเพดานนวัตกรรมใหม่ภายใต้แบรนด์ “อาร์มสตรอง” (Armstrong) เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมกันนี้ บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม. จำกัด ยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อรุกขยายตลาดไทยและกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างเป็นทางการ
“บี.เอฟ.เอ็ม. เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “อาร์มสตรอง” 2 กลุ่มด้วยกัน รวม 30 รุ่น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ระบบฝ้าเพดานสำเร็จรูป และระบบฝ้าเพดานอะคูสติก ที่ทำหน้าที่ช่วยดูดซับเสียง ลดเสียงสะท้อนภายในห้อง ป้องกันเสียงรบกวน และยังลดมลพิษทางเสียงในตัวอาคาร อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากการเกิดแผ่นดินไหว ของระบบพิเศษ รุ่น อาร์มสตรอง ไซส์มิก อาร์เอ็กซ์ (Armstrong Seismic RX System) โดยการใช้อุปกรณ์เสริม คลิปต้านแรงสั่นสะเทือนบนโครงคร่าวหลัก และโครงซอย ซึ่งสามารถต้านทานแผ่นดินไหวได้สูงกว่า 9 ริกเตอร์ ตามมาตรฐานการทดสอบของ ไอซีซี อีเอส หรือมาตรฐาน ไอบีซี (IBC) ประเทศสหรัฐอเมริกา และผ่านการทดสอบความทนไฟในระดับสากล ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ทั่วโลกใช้อย่างกว้างขวางในขณะนี้” นายกศิปัญญ์ กล่าว พร้อมให้รายละเอียดว่า
ผลิตภัณฑ์ระบบฝ้าเพดานสำเร็จรูป ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโลหะ และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุไม่ใช่โลหะ เช่น ระบบฝ้าเพดานไม้ ส่วนระบบฝ้าเพดานอะคูสติก ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ระบบฝ้าเพดานอะคูสติกใยแร่และใยแร่ไฟเบอร์กลาส ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน LEED ในแนวคิดอาคารเขียว มีน้ำหนักเบา ช่วยประหยัดโครงสร้างอาคาร ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องทาสี และยังรับประกันคุณภาพนานถึง 30 ปี
นายกศิปัญญ์ กล่าวด้วยว่า ผลิตภัณฑ์อาร์มสตรองได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างกว้างขวาง จากช่วงทดลองตลาดที่มียอดขายกว่า 50 ล้านบาท โดยบี.เอฟ.เอ็ม .ตั้งเป้ายอดขาย “อาร์มสตรอง” ในปี 2557 ไว้ประมาณ 100 ล้านบาท และจะเพิ่มยอดขายเป็น 300 ล้านบาทภายในปี 2559 โดยวางแผนรุกขยายตลาดทั้งในประเทศและกลุ่มตลาดอาเซียนเป็นหลัก ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าสถาปนิก วิศวกร นักออกแบบภายใน เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของบ้านในระดับไฮเอนท์ที่มีกำลังซื้อสูง ผ่านช่องทางการขายทั้งในส่วนของขายผ่านตัวแทน หรือดีลเลอร์ทั่วประเทศ และไดเร็คเซลล์
โดย บี.เอฟ.เอ็ม จะให้การบริการทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ ให้คำปรึกษาในการออกแบบ และวางแผนการก่อสร้าง การบำรุงรักษา ตลอดจนการติดตั้ง โดยมีช่างเทคนิคมืออาชีพกว่า 100 ชีวิตจากอาร์มสตรอง สหรัฐอเมริกาเป็นทีมสนับสนุน ทั้งนี้ อาร์มสตรองเป็นบริษัทหนึ่งที่เติบโตมากที่สุดในโลก 1,000 บริษัทจากการสำรวจของ Global Fortune มียอดขายมากกว่า 86,000 ล้านบาท ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 150 ปี มีผลงานที่สร้างชื่อในระดับโลกในโครงการสนามบินนานาชาติดูไบ สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ และสนามบินนานาชาติฮ่องกง ฯลฯ
ปัจจุบัน บริษัท บี.เอฟ.เอ็ม. จำกัด เป็นผู้นำตลาด “กรีนโปรดักส์” อันดับ 1 ด้านวัสดุตกแต่งอาคารคุณภาพระดับโลก โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย แผ่นผนังคอมโพสิท ไส้กลางกันไฟ ALPOLIC®/fr จากประเทศญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์เกล็ดอลูมิเนียมระบายอากาศกันน้ำได้ 100% และแผงกันแดดอัจฉริยะสำหรับอาคาร ภายใต้ชื่อ COLT จากประเทศอังกฤษ และแผงป้องกันน้ำท่วมสำเร็จรูป IBS จากประเทศเยอรมนี