กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งเสริมและพัฒนาตลาดยางพาราสู่มาตรฐานการส่งออกในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เน้นลดต้นทุนการผลิต แล้วรวมกันขาย ผ่านขบวนการสหกรณ์ เพิ่มโอกาสการต่อรองด้านราคา สหกรณ์ ผู้ดำเนินธุรกิจยางพารา และกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตยางพาราใน 10 จังหวัด เข้าร่วมคึกคัก
ดร.จุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการการส่งเสริมและพัฒนาตลาดยางพาราสู่มาตรฐานการส่งออกในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาการดำเนินธุรกิจด้านยางพาราของสถาบันเกษตรกร ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีการพัฒนายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราในกลุ่มเกษตรกรสมาชิกอย่างต่อเนื่องตลอดมา ที่ผ่านมาได้ดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านการผลิตยางพาราอย่างครบวงจร นับตั้งแต่ การผลิตการแปรรูปและการตลาด ควบคู่กับการให้มีการรวมกลุ่มผู้ผลิตยางพาราขึ้นมาเป็นสหกรณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตยางพารา เพิ่มช่องทางในการจำหน่าย
" ในปี 2555 ที่ผ่านมามีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตยางพาราจำนวน 723 แห่งใน 54 จังหวัด สามารถรวบรวมยางพาราได้จำนวน 726,245 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 71,000 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินธุรกิจยางพาราของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในขณะนี้นอกจากมีการดำเนินการในรูปแบบการรวบรวมผลผลิตยางพาราแล้วยังมีการแปรรูปเป็นยางรมควันยางอัดก้อน ยางแท่ง ยางคอมปาวด์และยางเครปอีกด้วย " ดร.จุมพล สงวนสิน กล่าว
พร้อมกันนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังได้มีการส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์ผู้ผลิตยางพาราขึ้นมา ควบคู่กับการพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การรวบรวมน้ำยางสด การผลิตยางแผ่น ดิบยางก้อนถ้วย ยางแผ่นรมควัน และการแปรรูปยางพารา เป็นยางแท่ง ยางคอมปาวด์ และยางเครป ไปจนถึงการใช้ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นยางพารา วัสดุอุปกรณ์เพื่อการผลิตน้ำยางพารา โดยส่งเสริมให้ใช้บริการจากสหกรณ์ ที่เกษตรกรเป็นสมาชิก มีการให้สินเชื่อแก่สมาชิก การรวบรวมยางพาราจากสมาชิกไปจำหน่าย ตลอดจนการสร้างเครือข่ายเชื่องโยงซึ่งกันและกันเพื่อช่วยเหลือ พึ่งพาซึ่งกันและกัน รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารสถานการณ์ยางพาราทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“เราส่งเสริมตั้งแต่ต้นน้ำ คือให้ความรู้ว่าจะผลิตอย่างไร ถึงจะได้น้ำยางที่มีคุณภาพ ให้ความรู้ด้านการแปรรูปให้ความรู้เกี่ยวกับด้านการตลาด ด้านการลงทุน นอกจากนี้ก็ยังสนับสนุนให้เกษตรกรร่วมกันสร้างเครือข่ายการรวมกลุ่มกัน นับตั้งแต่เรื่องการจัดหาปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร ถ้าสหกรณ์หาปัจจัยการผลิตมาจำหน่าย สมาชิกก็จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ราคายุติธรรม เมื่อมีผลผลิตออกมาสหกรณ์ก็ใช้วิธีรวมซื้อและนำไปจำหน่ายในคราวเดียวกัน ซึ่งจะสามารถทำให้ได้ราคาที่ดีกว่าที่จะไปขายแบบต่างคนต่างขาย นอกจากนั้นเมื่อสหกรณ์ในฐานะผู้จำหน่ายมีกำไรก็นำผลกำไรนั้นมาเฉลี่ยคืนให้กับสมาชิก ถือว่าได้ประโยชน์ถึง 2 ต่อ สำหรับเกษตรกร “ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าว
ดร.จุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า การพัฒนาตลอดห่วงโซ่ยางพาราของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรนั้น ต้องเริ่มต้นจากเกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกยางต้องให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนในการปลูกยางพาราควบคู่กับการพัฒนากระบวนการผลิตให้ได้คุณภาพขายให้สหกรณ์ และสหกรณ์ทำหน้าที่รวบรวมและจำหน่ายยังตลาดต่อไป แนวทางนี้จะก่อให้เกิดอำนาจในการต่อรองด้านราคาในการจำหน่ายยางพาราได้ อันจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
สำหรับการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดำเนินการพัฒนาการดำเนินธุรกิจยางพาราสู่ตลาดการส่งออกและการเข้าถึงโอกาสและช่องทางการบริการสินเชื่อเพื่อการส่งออกยางพารา โดยสามารถใช้บริการสินเชื่อเพื่อการส่งออก (Packing Credit) จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ได้ ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 50 คน ประกอบด้วยผู้แทนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินธุรกิจยางพาราใน 10 จังหวัดได้แก่ จันทบุรี ชลบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สงขลา สตูล ยะลา และบุรีรัมย์ เพื่อระดมความคิดเห็นในการจัดการระบบตลาดยางพาราของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจสู่ต่างประเทศและเพิ่มเติมความรู้การบริหารสินเชื่อเพื่อการส่งออกเพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจรวบรวมและแปรรูปยางพาราของสถาบันเกษตรกรให้เข้มแข็งต่อไป .