กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--กระทรวงวัฒนธรรม กลุ่มประชาสัมพันธ์
ดร.ปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังการจัดเตรียมบูธ เพื่อประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย (Thailand Pavilion) ณ หมู่บ้านนานาชาติ (International Village) ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 67 ว่า กระทรวงวัฒนธรรมในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของประเทศไทย มองว่าขณะนี้ภาพยนตร์ไทย ถือได้ว่าไม่เป็นรองใครในประเทศแถบเอเชีย เพราะมีเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของตัวเอง ทั้งในเรื่องการอำนวยการสร้างภาพยนตร์ แม้ขณะนี้ในมิติของภาพยนตร์ได้เปลี่ยนจากสื่อภาพยนตร์เป็นสื่อประเภทอื่น เช่น สื่อวีดิทัศน์ แต่ยังอาศัยรากวัฒนธรรมเป็นตัวสร้าง ซึ่งประเทศไทยใช้ภาพยนตร์และวีดิทัศน์เป็นช่องทางนำเสนอความเป็นอัตลักษณ์ ความเป็นไทย ไปสู่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว และทำให้คนทั้งโลกเห็นสิ่งมหัศจรรย์ ในความเป็นวิถีชีวิตของประเทศไทย แม้แต่ในอาเซียนก็เอาวิถีชีวิตของความเป็นไทยและประเทศอื่นที่คล้ายกันมาผสมผสาน สร้างสังคมวัฒนธรรม เพื่อให้คนไทยเกิดความภาคภูมใจที่เกิดมาเป็นคนไทยและมีวิถีชีวิต ที่ดีงาม
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติในครั้งนี้ เป็นที่ยอมรับจากวงการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทั่วโลก เพราะมีการรวมตัวกันของบุคลการทุกแขนงทางด้านภาพยนตร์ การรวมของดีบ้านฉัน ประเทศไหนมีอะไรดีก็เอามาโชว์กัน มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเป็นครูซึ่งกันและกัน แม้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศเล็กๆ แต่มีหลายประเทศให้การยอมรับ เพราะบุคลากรมีประสิทธิภาพ ทั้งการเป็นผู้นำ และเป็นผู้จัดการให้บริษัทชั้นนำด้านต่าง ๆ เช่น เป็นผู้ผลิตสื่อการ์ตูน ภาพยนตร์แอนิเมชั่น เป็นต้น ซึ่งมีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ผลิตโดยคนไทยแล้วได้รับรางวัลจากทั่วโลกมาโดยตลอด แสดงถึงฝีมือและศักยภาพของคนไทย ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีน้ำ มีทะเล มีผู้คน มีทรัพยากรทางธรรมชาติ มีพร้อมทุกอย่างในการผลิตภาพยนตร์ บริษัทและผู้ประกอบการต่าง ๆ ทั่วโลกก็ให้ความสนใจพื้นที่ในเมืองที่จะถ่ายทำภาพยนตร์ แม้แต่ฮอลีวู้ดก็ประสบผลสำเร็จในการใช้พื้นที่ของประเทศไทยถ่ายทำภาพยนตร์ เช่น เรื่อง James Bond ที่ถ่ายทำที่ประเทศไทย เป็นต้น
“ภาพยนตร์นอกจากให้ความบันเทิงแล้วยังสร้างรายได้ให้กับประเทศ ที่ผ่านมาเกิดรายได้นับแสนล้านบาท โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่หลักอยู่ 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงวัฒนธรรม จัดเรื่องเนื้อหาสาระที่เป็นวิถีชีวิตที่เป็นของดีของมหัศจรรย์ที่มีอยู่ในโลก เช่น กริยามารยาท การแต่งกาย กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ และออกไปขาย จัดโรดส์โชว์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เชิญชวนบริษัทต่างๆ มาถ่ายทำภาพยนตร์ในเมืองไทย ขณะเดียวกันประเทศไทยก็ผลิตภาพยนตร์ที่ได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาแทบทุกเรื่องแสดงถึงความเป็นอัตลักษณ์ของความเป็นไทย เช่น เรื่อง แม่นาคพระโขนง ที่ฉายออกไปแล้วได้รับการตอบรับอย่างดี ทำรายได้ถล่มทลาย ทำให้คนทั่วโลกซึมซับความเป็นไทยและสร้างรายได้มหาศาล