กรุงเทพ--22 ธ.ค.--บ.อีสเทอร์น สตาร์
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2542 บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ EASTAR ได้แถลงถึงผลการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบต่อแผนเพิ่มทุนจำนวน 2,000 ล้านบาทของบริษัทอย่างเป็นเอกฉันท์โดยมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมร้อยละ 66 ของจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท
สำหรับแผนเพิ่มทุนครั้งนี้ EASTAR จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 2 ล้านหุ้น เพื่อจำหน่ายแก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งเงินทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างหนี้ อีกทั้งจะนำไปใช้เพื่อการลงทุนและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับดำเนินงานภายในบริษัท สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้จะส่งผลให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 4,054 ล้านบาท
มร. วิลเลียม เช็ง กรรมการผู้จัดการ EASTAR กล่าวว่า "มติของที่ประชุมดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัท เพราะขณะนี้ EASTRA กำลังอยู่ระหว่างการฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ดังจะเห็นได้จากความคืบหน้าของแผนปรับโครงสร้างหนี้และแผนทางธุรกิจที่เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ด้วยความพยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการทำงาน เราเชื่อว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทจะรับได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากลับคืนในอนาคตอันใกล้นี้"
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ รีสอร์ท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่สำคัญของ EASTAR ได้ลงนามในสัญญาให้บริการด้านเทคนิคและการบริหารกับบริษัท เบนช์มาร์ค ฮอสปิตอลลิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติจากสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาสนามกอล์ฟ อีสเทอร์น สตาร์ คันทรี คลับ แอนด์ รีสอร์ท ให้เป็นศูนย์ประชุมรีสอร์ทมาตรฐานระดับโลกใน อำเภอบ้านฉาง จำหวัดระยอง ซึ่งความร่วมมือระหว่างกันครั้งนี้ถือเป็นขั้นตอนแรกของแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวของ EASTAR
ในข้อตกลงดังกล่าว เบนช์มาร์ค ฮอสปิตอลลิตี้ ในฐานะหุ้นส่วนจะให้การสนับสนุนด้านกลยุทธ์ทางการตลาด ตลอดจนฝึกอบรมพนักงาน และถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจศูนย์ประชุมรีสอร์ทแก่ อีสเทอร์น สตาร์ รีสอร์ท เพื่อให้บริษัทประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง นอกเหนือจากความช่วยเหลือดังกล่าวแล้ว อีสเทอร์น สตาร์ รีสอร์ท ยังจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงเครือข่ายระดับโลกของเบนช์มาร์ค ฮอสปิตอลลิตี้ รวมถึงฐานลูกค้าที่เป็นบรรษัทข้ามชาติมากกว่า 30,000 รายทั่วโลกอีกด้วย
"ผลกระทบจากวิกฤติทางเศรษฐกิจ ได้บีบบังคับให้เราต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ โดยเราต้องมองหาธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตแทนที่มุ่งเน้นเฉพาะธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าธุรกิจศูนย์ประชุมรีสอร์ทมีศักยภาพมากพอที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัท และนี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ EASTAR" มร.เช็ง ให้ความเห็นเพิ่มเติม--จบ--