กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--ทีเส็บ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บก้าวหน้าอีกขั้นกับการผลักดันประเทศไทยไปสู่แนวทางปฏิบัติในการบริหารจัดงานธุรกิจไมซ์อย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐาน ISO20121 ซึ่งประยุกต์ใช้ครั้งแรกในงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิค ลอนดอน 2012 ล่าสุดผู้ประกอบการไมซ์ไทย 3 ราย ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ชี้แนวโน้มการทำธุรกิจในอนาคตให้ยั่งยืน ต้องสร้างความต่างนำเสนอสินค้าและบริการที่ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นจุดขายดึงงานไมซ์ระดับโลก
นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า “ทีเส็บได้ริเริ่มดำเนินการส่งเสริมและผลักดันมาตรฐานกรีนมีตติ้งส์ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 จนได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในสองเมืองของภูมิภาคเอเชียที่ได้รับการยอมรับในการบริหารจัดการด้านกรีนมีตติ้งส์ ร่วมกับกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้จากผลสำรวจ Leadership in Sustainability: The Why and The How ในงาน UFI Annual Conference 2010 ในปีพ.ศ. 2553 ต่อมาในปีพ.ศ.2555 ทีเส็บได้มีการดำเนินงานปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยจาก “กรีนมีตติ้งส์” ไปสู่แนวปฏิบัติแห่งความยั่งยืนภายใต้แคมเปญ “Sustainability Thailand” พร้อมกับแนะนำมาตรฐานใหม่ ISO20121: Event Sustainability Management System ซึ่งเป็นมาตรฐานการจัดการและบริหารงานที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจการจัดงานอีเว้นท์โดยเฉพาะ ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทยและเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียเพื่อรักษาสถานะความเป็นผู้นำทางด้านกรีนมีตติ้งส์ของเอเชียไว้
“การดำเนินงานยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยไปสู่ความยั่งยืนที่ผ่านมามีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไมซ์ของไทยที่เข้าร่วมโครงการกับทีเส็บ สามารถพัฒนาคุณภาพและบริการจนได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดงานอีเว้นท์อย่างยั่งยืน หรือ ISO20121 แล้วจำนวน 3 ราย ได้แก่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์/บริษัทคิงส์เมนส์ และ Moevenpick เป็นไปตามเป้าประสงค์ของทีเส็บที่นำเอามาตรฐานนี้เข้ามาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญ มีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงานตามวิถีแห่งความยั่งยืน ครอบคลุมหลักการปฏิบัติทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจุดขายใหม่ในการดึงงานไมซ์ระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย” นายนพรัตน์ กล่าว
ด้านนายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า “มาตรฐาน ISO20121 มีความสำคัญมาก เพราะธุรกิจไมซ์เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากร เราจึงต้องหันมามองว่าจะแก้หรือลดปัญหาได้อย่างไร ซึ่งมาตรฐาน ISO20121 เข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างตรงจุด”
สำหรับการนำมาตรฐาน ISO20121 มาปรับใช้กับธุรกิจ ทางศูนย์ฯสิริกิติ์ ได้วางนโยบายกระตุ้นตั้งแต่ต้นทางให้องค์กรและพนักงานมีความตื่นตัว สร้างจิตสำนึก และให้ความรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบบริการที่สะท้อนความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกค้า ซึ่งที่ผ่านทางศูนย์ฯสิริกิติ์ได้ทำโครงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลการดำเนินการตามนโยบาย 3 ด้าน ครอบคลุมทั้งมิติทางสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า ในอนาคตทางศูนย์ฯสิริกิติ์ จะปรับแพคเกจตลอดจนรูปแบบการขายพื้นที่เพื่อให้บริการต่างๆของศูนย์ฯ สามารถชักจูงลูกค้าให้เข้ามามีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด โดยจะมีการมอบประกาศนียบัตรหรือการประกาศในสื่อต่างๆของทางศูนย์ฯ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันจะปรับกลยุทธ์การขายที่เน้นการประชุมแบบไม่ใช้กระดาษ ให้บริการ Wi-fi ฟรี และใช้ระบบอิเลคทรอนิกส์ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร รวมถึงเชิญชวนให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าและจักรยาน โดยมีจุดจอดจักรยานที่ร่วมพัฒนากับทีเส็บไว้รองรับ
“การเข้าร่วมโครงการกับทีเส็บครั้งนี้ นอกจากจะได้รับการสนับสนุนในเรื่องงบประมาณแล้ว ยังช่วยในการหาข้อมูลต่างๆตลอดจนการประชาสัมพันธ์โครงการให้กับผู้ที่อยู่ในธุรกิจไมซ์และผู้ใช้บริการของธุรกิจไมซ์ทั้งในและต่างประเทศได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย” นายศักดิ์ชัย กล่าวสรุป
บริษัทคิงส์เมนส์หนึ่งในผู้ประกอบการไมซ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO20121 และ เป็นบริษัทรับออกแบบจัดทำโครงสร้างสำหรับงานอีเว้นท์และนิทรรศการแสดงสินค้ารายแรกของอาเซียนที่ผ่านการรับรองมาตรฐานดังกล่าวจาก บริษัท SGS (ประเทศไทย จำกัด)
โดยนายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทคิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. เปิดเผยว่า “การได้รับรองมาตรฐานนี้ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของบริษัทเท่านั้น แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อผู้จัดงานในประเทศไทย ทั้งยังสะท้อนความเป็นมืออาชีพของไทยในเวทีโลกอย่างเด่นชัดอีกด้วย
“เราตระหนักดีว่าธุรกิจการจัดงานและงานแสดงสินค้า สามารถสร้างประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ เช่น เพิ่มอัตราการจ้างงาน ผู้จัดแสดงสินค้ามีรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายสินค้าและบริการ ขณะเดียวกันเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดงานทุกครั้งอาจจะส่งผลกระทบเชิงลบกับสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน เรามีนโยบายในการทำงานพัฒนาการบริหารจัดงานอีเว้นท์อย่างยั่งยืนก็เพื่อจะแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของบริษัทที่จะพัฒนาต่อไป จะเป็นไปในทิศทางนี้ ลดของเสียจากกระบวนการผลิต ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความพอใจให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับการลงทุนในบริการของเรา” นายชยวัฒน์ กล่าว
ด้านนายฮานส์รูดี้ ฟรุกติเกอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม Moevenpick Resort & Spa Karon Beach Phuket กล่าวว่าทางโรงแรมมีเป้าหมายจะเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานด้านไมซ์ที่นิยมของภูเก็ต ซึ่งนอกจากมาตรฐาน ISO20121 แล้ว โรงแรมฯ ยังได้เข้าร่วมปรับปรุงคุณภาพตามมาตรฐาน Green Globe ซึ่งเป็นมาตรฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสากล การเข้าสู่มาตรฐานเหล่านี้เป็นความพยายามของโรงแรมในการสนับสนุนคุณค่าทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน พร้อมกับรักษามรดกทางวัฒนธรรมไว้
ไทยเป็นประเทศที่มีความร่ำรวยทางวัฒนธรรมไม่ว่าจะเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา สถาปัตยกรรม รวมถึงศิลปะทางด้านอาหาร ทางโรงแรมฯ จะนำเอามาตรฐาน ISO20121 มาปรับใช้กับการจัดงานต่างๆ ของโรงแรม เช่น การจัดงานเลี้ยงแต่งงานแบบสากล งานที่นำเสนอแนวคิดรูปแบบต่างๆ ฯลฯ เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการของโรงแรมและเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับลูกค้าพร้อมกับเน้นย้ำถึงความใส่ใจของโรงแรมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของการทำธุรกิจ ตั้งแต่การคัดเลือกซัพพลายเออร์ที่ดำเนินงานอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คู่ขนานกันไปกับการบริหารจัดการทรัพยากรและพลังงานของโรงแรมให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ทางโรงแรมยังได้มีการอบรมสร้างจิตสำนึกให้พนักงานได้ตระหนักและเห็นความสำคัญ สร้างโอกาสและให้คืนกับสังคมชุมชนท้องถิ่นผ่านโครงการซีเอสอาร์ต่างๆของโรงแรม
“เราหวังว่าการนำมาตรฐาน ISO20121 มาปรับใช้ในธุรกิจ จะช่วยลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น และจำกัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากผลิตผลพลอยได้ต่างๆ การเข้าร่วมโครงการนี้กับทีเส็บทำให้เรามีโอกาสปรับปรุงการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปในทิศทางที่ยั่งยืน นอกจากนั้นยังได้แสดงให้โลกเห็นว่า อุตสาหกรรมไมซ์ของไทยสามารถดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จในระดับมาตรฐานสากล และเราก็พร้อมจะให้บริการด้วยความเอื้อเฟื้อแบบไทยๆที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก” นายฮานส์รูดี้ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ส่วนงานสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
นางสาวอริสรา ธนูแผลง โทรศัพท์ 02-694-6095 อีเมล arisara_t@tceb.or.th
นายพิษณุ พลายแก้ว โทรศัพท์ 02-694-6000 อีเมล pishnu_p@tceb.or.th
นางสาวกนกวรรณ กะดีแดง โทรศัพท์ 02-694-6006 อีเมล kanokwan_k@tceb.or.th