บล.ทรีนีตี้ ส่องหุ้นไทยเดือนมิ.ย. มูลค่าการซื้อขายเริ่มสูงขึ้น ดันดัชนีไต่ระดับแตะเป้าหมาย 1,450-1,480 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 2, 2014 16:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--เมคอะเว็ลท์ คอนซัลติ้ง บล.ทรีนีตี้ ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยเดือนมิถุนายน มีโอกาสปรับตัวไซด์เวย์อัพ แตะระดับเป้าหมาย 1450-1480 จุด หลังมูลค่าการซื้อขายที่ปรับตัวสูงขึ้นจากนักลงทุนภายในประเทศ และแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเบาบางซึ่งสอดคล้องกับสภาวะตลาดหุ้นโลกที่เกิดภาวะสภาพคล่องสูง ต้นทุนพันธบัตรปรับตัวลดลง นักลงทุนทั่วโลกต่างหาผลตอบแทนที่ดีขึ้นในตลาดหุ้น ซึ่งเรียกสภาวะนี้ว่า Melt Up ในตลาดหุ้น พร้อมสั่งลุย CPALL, BJC, SCB, ANAN, MACO, AMATA, HEMRAJ, TICON, AAV, NOK ปลื้มผลงาน "The Big Picture" พุ่ง 530% ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงผลตอบแทนการลงทุนของ "The Big Picture" ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่บล.ทรีนีตี้ ตั้งใจทุ่มเทเวลาคิดค้น วิจัยและติดตามผลอย่างใกล้ชิดในการจัดทำรายงานบทวิเคราะห์ภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้นไทยประจำเดือน ว่า หุ้นที่แนะนำใน The Big Picture สำหรับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทน 1.0% ในขณะที่ SET Index ให้ผลตอบแทน 0.06% สำหรับผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งระยะเวลา 47 เดือน อยู่ที่ +530% ถือว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับ SET index ที่ +78% สำหรับภาพการลงทุนในเดือนมิถุนายนนี้ มองว่า ดัชนี SET Index มีโอกาสปรับตัวไต่ระดับขึ้น (Sideways up) สู่ระดับเป้าหมายแรกของฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ประเมินไว้ที่ 1450-1480 จุดได้ มองจากมูลค่าการซื้อขายที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังนักลงทุนภายในประเทศที่มี Risk appetite สูงขึ้นเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดมากขึ้น และแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่น่าจะเริ่มเบาบางลงหลังจากการถือครองหุ้นอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งนี้ มีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ นโยบายเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น อาทิการจ่ายเงินค่าจำนำข้าวมูลค่า 90,000 ล้านบาท โครงการรถไฟรางคู่ โครงการบริหารจัดการน้ำ และมาตรการฉุกเฉินเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว คาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ หากธนาคารกลางยุโรปไม่มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินตามที่เราคาดการณ์คาดว่าจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก สำหรับคำแนะนำการลงทุนในเดือนมิถุนายน ให้เน้นหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ได้แก่ CPALL, BJC, SCB, กลุ่ม Big ticket item ที่มักจะเติบโตก้าวกระโดดในช่วงที่การบริโภคขยายตัว ได้แก่ ANAN, MACO, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่เตรียมได้ประโยชน์จากการที่ BOI เตรียมเริ่มอนุมัติโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริม ได้แก่ AMATA, HEMRAJ, TICON และกลุ่มสายการบินที่ได้อานิสงส์จากงบประมาณฉุกเฉินเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ AAV, NOK

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ