กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
“พีทีจี” คาดสัดส่วนจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันโตต่อเนื่อง ชี้หากปีนี้ขยายสาขาครบ 1,000 แห่ง หวังค่าการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง 57 ดีขึ้น ย้ำโครงการ B100 ไตรมาส3ได้ข้อสรุปส่วนเอทานอล ยังอยู่ระหว่างการศึกษา
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่มาจากการขายปลีกในสถานีบริการน้ำมันทั้งสถานีบริการของบริษัทเอง (สถานีบริการน้ำมัน COCO) และสถานีบริการน้ำมันที่เป็นของตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัท (สถานีบริการน้ำมัน DODO) ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้จากช่วงไตรมาส 1/57 ที่ผ่านมา ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันภายในสถานีบริการเพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้สัดส่วนปริมาณน้ำมันที่จำหน่ายภายในสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น 78% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด
ทั้งนี้ สัดส่วนปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ COCO ในไตรมาส 1/57 คิดเป็น 64% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 55% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันให้กับภาคอุตสาหกรรมและอื่นๆ คิดเป็นประมาณ 22% ของปริมาณน้ำมันที่จำหน่ายทั้งหมด ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเท่ากับ 29% ของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งหมด สาเหตุหลักก็เนื่องมาจากบริษัทให้ความสำคัญกับการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการเป็นหลัก จึงเร่งขยายสถานีบริการ โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมัน COCO รวมถึงระบบบัตรสมาชิก Max Card ที่มีฐานสมาชิกกว่า 1.34 ล้านราย ณ สิ้นปี 2556 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 260% จากปีก่อนหน้า บริษัทจึงสามารถจัดกิจกรรมการตลาดที่ตรงกับความต้องการของสมาชิก จึงมีการใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน PT อย่างสม่ำเสมอและมีปริมาณที่สูงขึ้น
สำหรับสถานีบริการน้ำมัน COCO เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 1 ปี 2556 และเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเปรียบเทียบกับ สิ้นปี 2556 โดยในไตรมาส 1 ปี 2557 มีสถานีบริการเพิ่มขึ้น 19 แห่ง ซึ่งบริษัทคาดหวังขยายสถานีบริการถึง 1,000 แห่งภายในปี 2557 ส่งผลให้บริษัทฯ มีสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเปิดคลังน้ำมันแห่งที่ 9 ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ โดยคลังน้ำมันดังกล่าวตั้งอยู่ที่ ต.ม่วงหัก อ. พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ มีปริมาณความจุน้ำมันรวม 7.0 ล้านลิตร สามารถรองรับปริมาณน้ำมันหมุนเวียนสูงสุด 53 ล้านลิตรต่อเดือน การเปิดคลังน้ำมันครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพด้านโลจิสติก ทำให้ ส่งน้ำมันไปยังสถานบริการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดต้นทุนขนส่ง ซึ่งครอบคลุมเขตพื้นที่ให้บริการในภาคกลางและเหนือ รวม 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี กำแพงเพชร และตาก
“ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยอัตรากาไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจาก 4.9% มาเป็น 5.0% และบริษัทฯ คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ค่าการตลาดน่าจะดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อัตรากาไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น”
นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า สิ้นไตรมาส 1 ปี 2557 บริษัทฯ ยังมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นกว่า 700 ล้านบาท สำหรับใช้ในการลงทุนในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง และขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้ การลงทุนหลักๆ ของบริษัทฯ ยังคงเป็นการขยายสถานีบริการน้ามัน เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และทุกอำเภออย่างที่ตั้งใจไว้ รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษารวมถึงโอกาสและการใช้ประโยชน์จากสถานีบริการที่มีอยู่ทั่วประเทศ ว่าสามารถจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากน้ำมันได้หรือไม่ อีกทั้งการศึกษาธุรกิจพลังงานทดแทนอื่นๆ (เช่น ไบโอดีเซลบี100 และ เอททานอล)